0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ชิงหมิง (qing-ming, อักษรจีนตัวเต็ม: 清明節, อักษรจีนตัวย่อ: 清明节, พินอิน: Qīngmíngjié) หรือ เช็งเม้ง, เชงเม้ง (ตามสำเนียงแต้จิ๋ว) “เช็ง” หมายถึง สะอาด บริสุทธิ์ และ “เม้ง” หมายถึง สว่าง รวมแล้วหมายความถึง ช่วงเวลาแห่งความแจ่มใส รื่นรมย์ เช็งเม้ง หรือ เชงเม้ง ในประเทศจีน เริ่มต้นประมาณ 5 – 20 เมษายน เป็นฤดูใบไม้ผลิ อากาศจะคลายความหนาวเย็น เริ่มเข้าสู่ความอบอุ่น มีฝนตกปรอย ๆ มีบรรยากาศสดชื่น ท้องฟ้าใสสว่าง (เป็นที่มาของชื่อ เช็งเม้ง) สำหรับในประเทศไทยเทศกาลเช็งเม้ง ถือวันที่ 5 เมษายนของทุกปีเป็นหลัก แล้วนับวันก่อนถึง 3 วัน และเลยไปอีก 3 วัน รวมเป็น 7 วัน (2 – 8 เมษายน) แต่ในปัจจุบันเนื่องจากมีปัญหาการจราจรคับคั่ง เลยขยายช่วงเวลาเทศกาลให้เร็วขึ้นอีก 3 สัปดาห์ (ประมาณ 15 มีนาคม – 8 เมษายน) แต่ในภาคใต้บางพื้นที่ เช่น จังหวัดตรังจะจัดเร็วกว่าที่อื่น 1 วัน ประมาณวันที่ 4 เมษายนของทุกปี ประเพณีที่สำคัญมากที่สุดของของชาวจีน คือ ไหว้บรรพบุรุษที่สุสาน (ฮวงซุ้ย) เป็นการแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษ โดยมีอิทธิพลมาจากลัทธิขงจื๊อ ที่เน้นเรื่องความกตัญญูเป็นสำคัญ ตำนานการเกิดเชงเม้ง ในยุคชุนชิว องค์ชายฉงเอ่อแห่งแคว้นจิ้นหนีภัยออกนอกแคว้น ไปมีชีวิตตกระกำลำบากนอกเมือง โดยมี เจี้ยจื่อทุย ติดตามไปดูแลรับใช้ เจี้ยจื่อทุย มีจิตใจเมตตาถึงขนาดเชือดเนื้อที่ขาของตนเป็นอาหารให้องค์ชายเสวยเพื่อประทังชีวิต ภายหลังเมื่อองค์ชายฉงเอ่อเสด็จกลับเข้าแคว้นและได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นเจ้าผู้ครองแคว้น นาม จิ้นเหวินกง และได้สถาปนาตอบแทนขุนนางทุกคนที่เคยให้ความช่วยเหลือตน แต่ลืมเจี้ยจื่อทุยไป นานวันเข้าจึงมีคนเตือนถึงบุญคุณเจี้ยจื่อทุย จิ้นเหวินกงเพิ่งนึกขึ้นไป จึงต้องการตอบแทนบุญคุณเจี้ยจื่อทุย โดยจัดหาบ้านให้เขาและมารดาให้เข้ามาอยู่อย่างสุขสบายในเมือง แต่ทว่าเจี้ยจื่อทุยปฏิเสธ จิ้นเหวินกงได้คิดแผนเผาภูเขา โดยหวังว่าเจี้ยจื่อทุยจะพามารดาออกมาจากบ้าน แต่ผลสุดท้ายกลับไม่เป็นไปอย่างที่คิด สองแม่ลูกกลับต้องเสียชีวิตในกองเพลิง ดังนั้น เพื่อเป็นการรำลึกถึงเจี้ยจื่อทุย จิ้นเหวินกงจึงมีคำสั่งให้วันนี้ของทุกปี ห้ามไม่ให้มีการก่อไฟ และให้รับประทานแต่อาหารสด ๆ และเย็น ๆ จนกลายเป็นที่มาของเทศกาลวันกินอาหารเย็น หรือ เทศกาลหันสือเจี๋ย (寒食节) ซึ่งเป็นวันสุกดิบก่อนวันเช็งเม้ง 1 วันเนื่องจากคนโบราณนิยมถือปฏิบัติกิจกรรมตามประเพณีวันหันสือเจี๋ยต่อเนื่องไปจนถึงวันเช็งเม้ง นานวันเข้าเทศกาลทั้งสองก็รวมเป็นวันเช็งเม้งวันเดียว การไหว้เจี้ยจื่อทุยจึงค่อย ๆ เปลี่ยนมาเป็นการไปเซ่นไหว้บรรพบุรุษแทน เทศกาลเช็งเม้ง ประเพณีที่สำคัญมากที่สุดของของชาวจีน คือ ไหว้บรรพบุรุษ ที่ สุสาน (ฮวงซุ้ย หรือ ฮวงจุ้ย ) เทศกาล “ เชงเม้ง ” เป็นเทศกาลประจำปีในการบูชาและแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วของชาวจีน ก่อนวันพิธีจะมีการทำความสะอาดหลุมฝังศพของบรรพบุรุษ หลังจากนั้นในวันพิธีจะมีการเซ่นไหว้อาหารหวานคาว ที่หลุมฝังศพ เพื่อเป็นการ รำลึกถึงคุณงามความดีของบรรพบุรุษ และเป็นการส่งอาหารให้ทุกปี เพื่อมิให้อดอยาก เมื่อไปอยู่อีกภพหนึ่ง คนจีนส่วนใหญ่ จะหยุดงานมาร่วมพิธีกัน พร้อมหน้าพร้อมตา หรือถือว่าเป็นวันพบญาติของคนจีนก็ว่าได้การบูชาบรรพบุรุษ (Ance stor Worship) และการไว้ทุกข์ (Mourning) ถือเป็นพิธีกรรมที่สำคัญที่สุดพิธีกรรมหนึ่งของชาวจีน และปฏิบัติกันแพร่หลายสืบมาหลายพันปีจวบจนทุกวันนี้ แม้ว่าการไว้ทุกข์และการบูชาบรรพบุรุษจะเป็นความเชื่อดั้งเดิมของชาวจีน แต่ก็ได้รับการส่งเสริมสนับสนุนจากปรัชญาขงจื้อ เพราะขงจื้อถือว่าเป็นขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีงามในการปลูกฝังความกตัญญูกตเวทีแก่ชนรุ่นหลัง เป็นโอกาสที่พี่น้องลูกหลานจะมาพบปะกัน และประเพณีก็เป็นเครื่องร้อยรัดผู้คนในสังคมเข้าไว้ด้วยกัน ขงจื้อจึงมองเทศกาล “ เชงเม้ง ” ในแง่ของจริยธรรมทางสังคม มากกว่าในแง่อภิปรัชญาเรื่องชีวิตหลังความตาย ประเพณีการทำความสะอาดฮวงซุ้ยเริ่มมาจากการที่พระเจ้าฮั่นเกาจู ปราบดาภิเษกและสถาปนาราชวงศ์ฮั่นขึ้นแล้ว เกิดระลึกถึงบุญคุณบิดา มารดาที่เสียชีวิตไปแล้วที่บ้านเกิด จึงเร่งรัดกลับบ้านเกิด แต่ทว่าป้ายชื่อของฮวงซุ้ยแต่ละที่เลือนลางเต็มทน จากสงคราม พระเจ้าฮั่นเกาจูจึงอธิฐานต่อสวรรค์ด้วยการโปรยกระดาษสีขึ้นบนฟ้าแล้วให้ลมพัดปลิวไป ถ้ากระดาษตกที่ฮวงซุ้ยไหน ถือว่าเป็นฮวงซุ้ยของบิดา มารดาพระองค์ และเมื่อดูป้ายชื่อชัด ๆ แล้วก็พบว่าเป็นฮวงซุ้ยของบิดา มารดาพระองค์จริง ประเพณีการทำความสะอาดฮวงซุ้ยและโปรยกระดาษสีบนหลุ่มศพก็เริ่มมาจากตรงนี้เอง ประโยชน์ของการไป ไหว้บรรพบุรุษ เทศกาลเชงเม้ง1. เพื่อรำลึกถึงคุณความดี ที่บรรพบุรุษของเราได้กระทำไว้ ได้ดูแลเรา ลำบากเพื่ื่อเราให้มีความเป็นอยู่ที่ดี เป็นแบบอย่างการดำเนินชีวิต "เราสบาย เพราะพ่อแม่ บรรพบุรุษลำบาก"2. เป็นศูนย์รวมตระกูล ผังตระกูล โดยทั่วไป การไหว้ที่ดีที่สุด ต้องนัดหมายไปไหว้พร้อมกัน ( วันและเวลาเดียวกัน ) ทำให้ลูกหลานที่อยู่กระจายกันไป ได้มาพบปะ สังสรรค์กันพร้อมหน้าเป็นการสร้างความสามัคคี สร้างจุดศูนย์รวม กล่าวได้ว่าเป็น วันรวมญาติ3. เป็นกรอบถนนชีวิตของลูกหลานทุกคน "พ่อแม่ตายแล้ว ยังกำหนดชะตาชีวิตลูกหลาน"เป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต เน้นความกตัญญูที่มีต่อบุพการีและลูกหลานควรปฏิบัติตาม4. เป็นการเตือนสติตน ความตายต้องเกิดขึ้นกับทุกคน และเป็นธรรมดาของมนุษย์ปุถุชนประเพณีปฏิบัติในวัน เช็งเม้ง1. การทำความสะอาด สุสาน ( เซ้าหมอ )ลงสีที่ป้ายชื่อให้ดูใหม่ - คนตายแล้วลงสีเขียว หรือสีทองขลิบเขียว คนเป็นลงสีแดง ( ห้ามถอนหญ้า - อาจกระทบตำแหน่งห้าม เช่น ทิศอสูร ทิศแตกสลาย ทิศดาวเบญจภูติ )บ้างก็ตกแต่งด้วย กระดาษม้วนสายรุ้ง( สุสานคนเป็น - แซกี - ใช้สายรุ้งสีแดง :: สุสานคนตาย - ฮกกี - ใช้หลากสีได้ )ห้ามปักธง ลงบนหลังเต่า เท่ากับทิ่มแทงหลุม และบางความเชื่อ ทำให้หลังคาบ้านของบรรพบุรุษรั่ว2. กราบไหว้ เจ้าที่ เป็นการให้เกียรติ และขอบคุณที่ช่วยคุ้มครองดูแลการจัดวางของไหว้ ( เรียงลำดับจากป้าย )1. เทียน 1 คู่ + ธูป 5 ดอก ( อาจปักลงบนฟักได้ )2. ชา 5 ถ้วย3. เหล้า 5 ถ้วย4. ของไหว้ต่าง ๆ เช่น ขนมอี๋ ผลไม้*** ควรงดเนื้อหมู - เพราะเคยมีปรากฎว่า เจ้าที่เป็นอิสลาม ***5. กระดาษเงิน กระดาษทองกราบไหว้ ระลึกถึงพระคุณ ของพ่อแม่ บรรพบุรษ ตั้งเครื่องบูชาเซ่นไหว้ดวงวิญญาณของท่านการจัดวางของไหว้ ( เรียงลำดับจากป้าย - จะต่างกับข้างต้น )6. ชา 3 ถ้วย7. เหล้า 3 ถ้วย8. ของไหว้ต่าง ๆ เช่น ขนมอี๋ ผลไม้* ของไหว้ ตามความเชื่อประเพณีของแต่ละท้องถิ่น ส่วนใหญ่เป็น ขนมถ้วยฟู - ฮวกก้วย *9. กระดาษเงิน กระดาษทอง ฯลฯ10. เทียน 1 คู่ + ธูป ตามจำนวนบรรพบุรุษ ท่านละ 1 ดอกหมายเหตุ*** ห้ามวางของตรงแท่นหน้า เจีี๊ยะปี ( ป้ายหิน ที่จารึกชื่อ บรรพบุรุษ ) เพราะเป็นที่เข้าออกของ วิญญาณบรรพบุรุษ ไม่ใช่เก้าอี้นั่ง อย่างที่หลายคนเข้าใจผิด***พิธีเช็งเม้งผู้อาวุโส เป็นผู้นำกราบ ไหว้จนเทียนใกล้หมดก้านลูกหลานตีวงล้อมด้วยหวาย เผา กระดาษเงิน กระดาษทอง ฯลฯ เป็นการกำหนดขอบเขตว่า สิ่งเหล่านี้ลูกหลานส่งให้ บรรพบุรุษของครอบครัว นั้น ๆ เป็นการเฉพาะ ป้องกันการแย่งชิง ( ผู้ตีวงล้อม ต้องเป็นลูกหลานเท่านั้น ) *** เป็นอันเสร็จพิธีบางครอบครัวก็จะมานั่งล้อมวงทานอาหารกันต่อ เพื่อเป็นการ แสดงความสมานสามัคคีแก่ บรรพบุรุษ
ขอบคุณความรู้เกี่ยวกับ "วันเชงเม้ง"จากคุณ Katoon ด้วยนะครับ ;/lovely
อ้างจาก: khun_jan ที่ มีนาคม 24, 2014, 09:43:53 PMขอบคุณความรู้เกี่ยวกับ "วันเชงเม้ง"จากคุณ Katoon ด้วยนะครับ ;/lovelyไม่เป็นไรครับ มีความรู้ก็แบ่งปันกันไป /;juju /;ok ;/suprice
อ้างจาก: katoon ที่ มีนาคม 27, 2014, 06:13:44 PMอ้างจาก: khun_jan ที่ มีนาคม 24, 2014, 09:43:53 PMขอบคุณความรู้เกี่ยวกับ "วันเชงเม้ง"จากคุณ Katoon ด้วยนะครับ ;/lovelyไม่เป็นไรครับ มีความรู้ก็แบ่งปันกันไป /;juju /;ok ;/supriceดีใจที่วันนี้เจอคุณ Katoon นะครับ ... สนุกกับการทำงานไหมครับวันนี้?
อ้างจาก: khun_jan ที่ มีนาคม 27, 2014, 06:40:06 PMอ้างจาก: katoon ที่ มีนาคม 27, 2014, 06:13:44 PMอ้างจาก: khun_jan ที่ มีนาคม 24, 2014, 09:43:53 PMขอบคุณความรู้เกี่ยวกับ "วันเชงเม้ง"จากคุณ Katoon ด้วยนะครับ ;/lovelyไม่เป็นไรครับ มีความรู้ก็แบ่งปันกันไป /;juju /;ok ;/supriceดีใจที่วันนี้เจอคุณ Katoon นะครับ ... สนุกกับการทำงานไหมครับวันนี้?ถามเย้ยนี่
อ้างจาก: siril ที่ มีนาคม 27, 2014, 08:15:21 PMอ้างจาก: khun_jan ที่ มีนาคม 27, 2014, 06:40:06 PMอ้างจาก: katoon ที่ มีนาคม 27, 2014, 06:13:44 PMอ้างจาก: khun_jan ที่ มีนาคม 24, 2014, 09:43:53 PMขอบคุณความรู้เกี่ยวกับ "วันเชงเม้ง"จากคุณ Katoon ด้วยนะครับ ;/lovelyไม่เป็นไรครับ มีความรู้ก็แบ่งปันกันไป /;juju /;ok ;/supriceดีใจที่วันนี้เจอคุณ Katoon นะครับ ... สนุกกับการทำงานไหมครับวันนี้?ถามเย้ยนี่ ไม่ใช่นะครับ ถามให้มีเรื่องคุยต่อต่างหากครับ
อ้างจาก: khun_jan ที่ มีนาคม 27, 2014, 10:47:41 PMอ้างจาก: siril ที่ มีนาคม 27, 2014, 08:15:21 PMอ้างจาก: khun_jan ที่ มีนาคม 27, 2014, 06:40:06 PMอ้างจาก: katoon ที่ มีนาคม 27, 2014, 06:13:44 PMอ้างจาก: khun_jan ที่ มีนาคม 24, 2014, 09:43:53 PMขอบคุณความรู้เกี่ยวกับ "วันเชงเม้ง"จากคุณ Katoon ด้วยนะครับ ;/lovelyไม่เป็นไรครับ มีความรู้ก็แบ่งปันกันไป /;juju /;ok ;/supriceดีใจที่วันนี้เจอคุณ Katoon นะครับ ... สนุกกับการทำงานไหมครับวันนี้?ถามเย้ยนี่ ไม่ใช่นะครับ ถามให้มีเรื่องคุยต่อต่างหากครับนึกว่าเย้ย ที่ได้พักผ่อน ปีนึงพักได้กี่วันนะ
อ้างจาก: siril ที่ มีนาคม 28, 2014, 08:52:08 AMอ้างจาก: khun_jan ที่ มีนาคม 27, 2014, 10:47:41 PMอ้างจาก: siril ที่ มีนาคม 27, 2014, 08:15:21 PMอ้างจาก: khun_jan ที่ มีนาคม 27, 2014, 06:40:06 PMอ้างจาก: katoon ที่ มีนาคม 27, 2014, 06:13:44 PMอ้างจาก: khun_jan ที่ มีนาคม 24, 2014, 09:43:53 PMขอบคุณความรู้เกี่ยวกับ "วันเชงเม้ง"จากคุณ Katoon ด้วยนะครับ ;/lovelyไม่เป็นไรครับ มีความรู้ก็แบ่งปันกันไป /;juju /;ok ;/supriceดีใจที่วันนี้เจอคุณ Katoon นะครับ ... สนุกกับการทำงานไหมครับวันนี้?ถามเย้ยนี่ ไม่ใช่นะครับ ถามให้มีเรื่องคุยต่อต่างหากครับนึกว่าเย้ย ที่ได้พักผ่อน ปีนึงพักได้กี่วันนะของผมเฉพาะหยุดพักผ่อนได้ 25 วันครับ ... ลากิจลาป่วยไม่เกิน 25 วันเช่นกัน
ยังมีตำแหน่งว่างมั๊ยครับลาพักร้อนได้มหาศาล
อ้างจาก: khun_jan ที่ มีนาคม 28, 2014, 05:13:16 PMอ้างจาก: siril ที่ มีนาคม 28, 2014, 08:52:08 AMอ้างจาก: khun_jan ที่ มีนาคม 27, 2014, 10:47:41 PMอ้างจาก: siril ที่ มีนาคม 27, 2014, 08:15:21 PMอ้างจาก: khun_jan ที่ มีนาคม 27, 2014, 06:40:06 PMอ้างจาก: katoon ที่ มีนาคม 27, 2014, 06:13:44 PMอ้างจาก: khun_jan ที่ มีนาคม 24, 2014, 09:43:53 PMขอบคุณความรู้เกี่ยวกับ "วันเชงเม้ง"จากคุณ Katoon ด้วยนะครับ ;/lovelyไม่เป็นไรครับ มีความรู้ก็แบ่งปันกันไป /;juju /;ok ;/supriceดีใจที่วันนี้เจอคุณ Katoon นะครับ ... สนุกกับการทำงานไหมครับวันนี้?ถามเย้ยนี่ ไม่ใช่นะครับ ถามให้มีเรื่องคุยต่อต่างหากครับนึกว่าเย้ย ที่ได้พักผ่อน ปีนึงพักได้กี่วันนะของผมเฉพาะหยุดพักผ่อนได้ 25 วันครับ ... ลากิจลาป่วยไม่เกิน 25 วันเช่นกันใน 1 ปีหรือ โอ้โห
อ้างจาก: kokusol ที่ มีนาคม 28, 2014, 09:05:59 PMยังมีตำแหน่งว่างมั๊ยครับลาพักร้อนได้มหาศาล /;kik kik มหาศาลเลยเหรอครับ แต่ก็ใช้ไม่เคยหมดเลยครับ ส่วนใหญ่ก็ใช้แค่สิบกว่าวัน
อ้างจาก: siril ที่ มีนาคม 28, 2014, 08:35:03 PMอ้างจาก: khun_jan ที่ มีนาคม 28, 2014, 05:13:16 PMอ้างจาก: siril ที่ มีนาคม 28, 2014, 08:52:08 AMอ้างจาก: khun_jan ที่ มีนาคม 27, 2014, 10:47:41 PMอ้างจาก: siril ที่ มีนาคม 27, 2014, 08:15:21 PMอ้างจาก: khun_jan ที่ มีนาคม 27, 2014, 06:40:06 PMอ้างจาก: katoon ที่ มีนาคม 27, 2014, 06:13:44 PMอ้างจาก: khun_jan ที่ มีนาคม 24, 2014, 09:43:53 PMขอบคุณความรู้เกี่ยวกับ "วันเชงเม้ง"จากคุณ Katoon ด้วยนะครับ ;/lovelyไม่เป็นไรครับ มีความรู้ก็แบ่งปันกันไป /;juju /;ok ;/supriceดีใจที่วันนี้เจอคุณ Katoon นะครับ ... สนุกกับการทำงานไหมครับวันนี้?ถามเย้ยนี่ ไม่ใช่นะครับ ถามให้มีเรื่องคุยต่อต่างหากครับนึกว่าเย้ย ที่ได้พักผ่อน ปีนึงพักได้กี่วันนะของผมเฉพาะหยุดพักผ่อนได้ 25 วันครับ ... ลากิจลาป่วยไม่เกิน 25 วันเช่นกันใน 1 ปีหรือ โอ้โห /;ok. ใช่แล้วครับ
อ้างจาก: khun_jan ที่ มีนาคม 28, 2014, 10:19:09 PMอ้างจาก: kokusol ที่ มีนาคม 28, 2014, 09:05:59 PMยังมีตำแหน่งว่างมั๊ยครับลาพักร้อนได้มหาศาล /;kik kik มหาศาลเลยเหรอครับ แต่ก็ใช้ไม่เคยหมดเลยครับ ส่วนใหญ่ก็ใช้แค่สิบกว่าวันใช้แค่ 10 วันเองหรือ เห็นกลับน่านบ่อยๆ
อ้างจาก: siril ที่ มีนาคม 29, 2014, 09:06:21 AMอ้างจาก: khun_jan ที่ มีนาคม 28, 2014, 10:19:09 PMอ้างจาก: kokusol ที่ มีนาคม 28, 2014, 09:05:59 PMยังมีตำแหน่งว่างมั๊ยครับลาพักร้อนได้มหาศาล /;kik kik มหาศาลเลยเหรอครับ แต่ก็ใช้ไม่เคยหมดเลยครับ ส่วนใหญ่ก็ใช้แค่สิบกว่าวันใช้แค่ 10 วันเองหรือ เห็นกลับน่านบ่อยๆส่วนใหญ่จะลาที่คาบเกี่ยวกับ "เสาร์ อาทิตย์" ไม่ก็วันหยุดพิเศษครับ ... เลยไม่เสี...วันลาเท่าไหร่
อ้างจาก: siril ที่ มีนาคม 27, 2014, 08:15:21 PMอ้างจาก: khun_jan ที่ มีนาคม 27, 2014, 06:40:06 PMอ้างจาก: katoon ที่ มีนาคม 27, 2014, 06:13:44 PMอ้างจาก: khun_jan ที่ มีนาคม 24, 2014, 09:43:53 PMขอบคุณความรู้เกี่ยวกับ "วันเชงเม้ง"จากคุณ Katoon ด้วยนะครับ ;/lovelyไม่เป็นไรครับ มีความรู้ก็แบ่งปันกันไป /;juju /;ok ;/supriceดีใจที่วันนี้เจอคุณ Katoon นะครับ ... สนุกกับการทำงานไหมครับวันนี้?ถามเย้ยนี่ ;/ ha ha ha
อ้างจาก: katoon ที่ มีนาคม 30, 2014, 10:04:46 PMอ้างจาก: siril ที่ มีนาคม 27, 2014, 08:15:21 PMอ้างจาก: khun_jan ที่ มีนาคม 27, 2014, 06:40:06 PMอ้างจาก: katoon ที่ มีนาคม 27, 2014, 06:13:44 PMอ้างจาก: khun_jan ที่ มีนาคม 24, 2014, 09:43:53 PMขอบคุณความรู้เกี่ยวกับ "วันเชงเม้ง"จากคุณ Katoon ด้วยนะครับ ;/lovelyไม่เป็นไรครับ มีความรู้ก็แบ่งปันกันไป /;juju /;ok ;/supriceดีใจที่วันนี้เจอคุณ Katoon นะครับ ... สนุกกับการทำงานไหมครับวันนี้?ถามเย้ยนี่ ;/ ha ha ha คุณ katoon หัวเราะซะละ
ลูกหลานคนจีน ต้องทำนะครับ
พี่ตูนจัดเต็มเลย ความรู้เน้น ๆ อิอิ