1 ในความเชื่อผิดๆ ของคนที่พึ่งเริ่มออกกำลังกาย คือ ไขมันของเราสามารถเปลี่ยนเป็นกล้ามเนื้อได้ ถ้าเราออกกำลังกาย เข้าฟิตเนส หรือยิม และคนที่มีกล้ามใหญ่ๆ หากทิ้งไว้ไม่ออกกำลังกายเลย กล้ามจะกลายเป็นไขมัน แล้วจะเปลี่ยนเป็นคนอ้วนแทน
ในความเป็นจริงแล้ว ไขมันไม่มีทางที่จะเปลี่ยนเป็นกล้ามเนื้อได้ แต่อาจจะเพราะความเชื่อที่ว่าให้กินเยอะๆตอนที่จะสร้างกล้าม ตัวจะได้ใหญ่ๆ แล้วมันจะกลายเป็นกล้ามตอนเรายกเวท หรือเข้ายิม
ในความเป็นจริงแล้วกล้ามเนื้อนั้นถ้ามันจะใหญ่ขึ้นได้ มันเกิดจากเราใช้งานมันหนัก เกินกว่าการทำงานในปกติของมัน จนเกิดการฉีกขาดของกล้ามเนื้อบางส่วน ซึ่งก็คือเกิดจากการเข้าฟิตเนส เข้ายิม นั่นเอง จากนั้นร่างกายก็จะพัฒนาและซ่อมแซมกล้ามเนื้อที่เสียหายนั้น เพื่อให้สามารถทนต่อการใช้งานที่หนักขึ้นได้ และสิ่งที่ทำให้เกิดการพัฒนาและซ่อมแซมนั้นก็คือ โปรตีน และสารอาหาร บวกกับการพักผ่อนที่เพียงพอ ไม่ได้เกิดจากการดึงไขมันมาเปลี่ยนเป็นกล้ามอย่างที่เข้าใจผิดกัน
ในทางกลับกัน กล้ามเนื้อก็ไม่สามารถกลายเป็นไขมันได้ด้วยเหตุผลเดียวกัน เพราะไขมัน คือพลังงานเหลือใช้ที่ร่างกายเราเก็บสะสม ไว้หากเรากินอาหารโดยเฉพาะจำพวกแป้งและไขมัน มากเกินกว่าที่ร่างกายเราจะดึงไปใช้เป็นพลังงานมันจะถูกเก็บสะสมไว้ในรูปของ ไขมันยิ่งไม่ใช้ มันยิ่งจะเพิ่มขึ้น
ต่างจากกล้ามเนื้อที่หากเรายิ่งไม่ได้ใช้มัน ร่างกายเราจะคิดว่ากล้ามเนื้อส่วนที่ไม่ได้ใช้งาน เป็นส่วนที่กินพลังงานเกินความจำเป็น เพราะยิ่งมีกล้ามเนื้อมาก มันก็จะยิ่งใช้พลังงานมากในการทำงาน ดังนั้นหากคนที่มีกล้ามหรือเล่นกล้าม หยุดหรือลดการใช้กล้ามเนื้อของเขา ร่างกายก็จะเริ่มปรับสภาพ ลดกล้ามเนื้อที่กินพลังงานเกินความจำเป็นลง
แต่ในทางกลับกัน ถ้าหากเรายังกินเท่ากับตอนที่เรายังพยายามสร้างกล้ามเนื้ออยู่ สารอาหารหรือพลังงานที่เกินมาพวกนั้นก็จะสะสมอยู่ในรูปไขมันแทน ทำให้ดูเหมือนว่ากล้ามเนื้อเรานิ่มลงจนกลายเป็นไขมันนั่นเอง