0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
5.ป๊อก ป๊อก ครืดระยะเวลาที่เกิดเหตุการณ์ไม่ทราบแน่ชัด แต่สถานที่เกิดคือ หอ 7 หญิงในสมัยที่มอ ยังเป็นที่รกร้างอยู่มาก ถนนยังเป็นลูกรัง ถนนหน้าฝนเป็นโคลน รถไปมาลำบากตอนกลางคืนมืด ไม่มีแสงไฟ เรื่องเกิดกับนักศึกษาสาว คู่หนึ่งอาศัยอยู่ที่ประมาณ ชั้น 2 หรือ 3 ของหอหญิงเจ็ดช่วงนั้นเป็นช่วงสอบ นักศึกษาต่างกำลังอ่านหนังสือกันอยู่ ประมาณว่า นักศึกษาหญิงคนหนึ่งไม่สบาย อ่านหนังสือในห้องตอนหัวค่ำแล้วรูมเมทชวน ไปทานข้าว แต่เพราะเป็นไข้อยู่จึงไปไม่ไหว อยากพักผ่อนพอเมทคนนั้นเห็นเพื่อนไม่สบาย ด้วยความเป็นห่วง จึงบอกว่าเดี๋ยวไปทานข้าวเองก็ได้ แล้วจะห่อข้าวมาฝากเพื่อนคนที่ไม่สบายก็บอกว่า ยังไงฝากซื้อราดหน้า (หรือผัดไท หรือสักอย่างที่เป็นเส้นๆ) มาให้ทีละกันกินแล้วจะได้กินยาเมทคนนั้นก็บอกว่า ได้เดี๋ยวจะรีบไป รีบกลับหลังจากที่เพื่อนออกไปจากห้องคนที่ไม่สบายก็นั่งอ่านหนังสือต่ออ่านได้สักพักก็ไม่ไหว เพราะไข้ขึ้นจึงนอนตอนนอนอยู่นั้น สลึมสลืออยู่ แต่มีความรู้สึกว่านานมากแล้ว เพื่อนทำไมยังไม่กลับมาซะที่ตกดึก ฝนเริ่มตก นักศึกษาคนนั้นก็ตื่นขึ้นมาอ่านหนังสือต่อ ในใจเป็นห่วงเพื่อนเพราะออกไปนานมากยังไม่กลับสักพักนักศึกษาคนนั้นได้ยินเสียงเบาๆ ดังจากชั้นล่าง จากทางบันได "ป๊อก…ป๊อก……ป๊อก……… ป๊อก…..."เสียงนั้นดังเป็นระยะๆ ใกล้เข้ามา จากทางบันไดดังขึ้นเรื่อยๆ เสียงเหมือน คนกำลังแบกของหนักบางอย่างขึ้นมาและเสียงนั้นก็ดังมาจนถึงชั้นที่ห้องนักศึกษาหญิงคนนั้นอยู่ แล้วเสียงก็เปลี่ยนไป "ครื…..ด….ครื....ด…...ค..รื…ด"เสียงเหมือนคนกำลังลากอะไรสักอย่างใกล้เข้ามาเรื่อย จนมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องนักศึกษาหญิงเริ่มเอะใจ และมองไปทางประตู ในใจนึกว่าเพื่อนกลับมาแล้ว แต่ยังเงียบได้อึดใจนึงก็มีเสียงเคาะห้อง "ก๊อก ก๊อก ก๊อก" แล้วเงียบไป นักศึกษาสะดุ้งสุดตัว คิดว่าไม่ใช่ เพื่อนแน่แล้วถ้างั้นทำไมไม่เปิดเข้ามาเลย จึงเดินไปเปิดประตู ตรงลูกบิดประตูมีถุงใส่ห่อราดหน้าแขวนอยู่พอเห็นห่อราดหน้า ก็งง แล้วเพื่อนอยู่ไหน ทำไมไม่กลับมา หรือ ติดฝนเลยฝากคนอื่นเอามาให้แต่ทำไมต้องเอามาแขวน ไม่รอเจอกันก่อน จะได้รู้ว่าเป็นใคร แล้วทำไมเดินเร็วจังมีแต่รอยเปียกน้ำเป็นทางจากบันได...คิดต่างๆ นานา แต่แล้วก็แกะ ห่อราดหน้าออกทานเสร็จก็ทานยาตาม ได้สักพักก็ม่อยหลับไปรุ่งเช้า มีคนมาเคาะห้องบอกว่าเพื่อนตายแล้ว นักศึกษาหญิงคนนั้นถูกฆ่าข่มขืน ตรงพงหญ้าข้างทางคาดว่าเหตุเกิดประมาณหัวค่ำ ลักษณะศพสภาพแขนและขาทั้งสองข้างหักอาจเกิดจากการที่คนร้ายเอาท่อนไม้ทุบตีเพื่อไม่ให้หนีนักศึกษาหญิงที่ตายกำลังเดินทางกลับจากตลาด (ไม่แน่ใจว่าเป็นฝายหินหรือตลาดต้นพยอม)หลังจากทานข้าวเสร็จ ทุกทีจะไปกับเพื่อน แต่เพื่อนไม่สบายจึงไปคนเดียว โดยเพื่อนฝากซื้อข้าวห่อคนร้ายอาจเห็นว่าเป็นคนเดียวจึงลงมือ แล้วราดหน้าเมื่อคืนล่ะ? ไม่มีใครรู้คำตอบแน่ชัดแต่จากที่ฟังกันมา คือหลังจากที่ตายไปแล้ว ด้วยความเป็นห่วงเพื่อน เพราะว่าไม่สบาย และยังหิวนำห่อราดหน้าที่ซื้อมาฝากไปส่งให้แต่จะไปส่งยังไง แขนหักขาหักหมดแล้วลักษณะที่เขาเล่ามา คือเพื่อนคนนั้นใช้ปากคาบถุง แล้วใช้คางเกยพาตัวเองมาจนถึงหอพักแล้วใช้คางเกยบันไดลากตัวเองขึ้นมา เป็นเสียง"ป๊อก ป๊อก"เสียง "ครืด"ที่ได้ยินคือเสียงลากตัวเองจากบันได มาจนถึงหน้าห้องปรากฎเป็นรอยเปียกน้ำยาวติดต่อกันหลังจากส่งห่อลาดหน้าให้ได้แล้วก็หมดห่วง...ตอนแรกทุกคนไม่เชื่อที่นักศึกษาคนนั้นเล่าแต่หลังจากที่นักศึกษาที่พักอยู่ข้างๆ ห้องยืนยันว่า ในคืนนั้นได้ยินเสียงเหมือนคนกำลังยกของหนักและลากของหนักจากข้างล่างขึ้นมา ทุกคนต่างเชื่อสนิทใจ......มิตรภาพอยู่เหนือความตาย...* * * วิศวะหลอน วันหนึ่ง นักศึกษาจากคณะวิศวะสองคนเพิ่งเลิกจากกังสดาล (แต่ก่อนร้านนี้ฮิตครับ)ครึ้ม ๆ ขึ้นมาก็เลยขับรถเลยจากทางเข้า กะขึ้นดอยไปชมเมืองเล่น คนขับก็ขับไปข้างหลังคนซ้อนก็นั่งไป เมาๆ ขึ้นมาคนซ้อนก็เลยหลับ(สมัยก่อนแปดสิบเปอร์เซ็นต์นักศึกษาขับแมงกะไซค์ไม่ใช่รถยนต์อย่างทุก วันนี้)สักพักหนึ่งคนซ้อนก็ตื่น กำลังเข้าโค้งพอดี เห็นหญิงสาวคนหนึ่งยืนโบกรถอยู่ข้างทาง แต่คนขับก็ขับเลยผ่านไปด้วยความเป็นสุภาพบุรุษจัด ก็เลยถามคนขับว่า “ทำไม mung ไม่จอดรถลงไปถามหน่อยล่ะ เผื่อเขามีปัญหาอะไร?”คนขับบอกว่า “ku ไม่จอดด้วยหรอก คนนี้เขารอโบกทุกโค้งเลย เจอมาหลายโค้งแล้วเดี๋ยวโค้งหน้า mung กะ ku ก็เจอเขาอีกแหละ...”* * *7. พยาบาลชุดแดงเห็นเขาเล่าว่ามีนักศึกษาคนนึงของคณะแพทย์อยู่ทำงานในตึกของฝั่งสวนดอก(ไม่แน่ใจว่าเป็น โรงพยาบาลหรือตึกแพทย์คนเล่าไม่ยืนยันแต่ 2 ตึกนี้ก็ใกล้กันนี่ กลับเข้าเรื่องต่อ)เขาคนนี้ก็ทำงานอยู่จนดึกก็เลยว่าจะลงลิฟต์มาระหว่างที่รอ เขาก็ได้ยินเสียงเดินมาข้าง ๆเขาก็หันไปมองเห็นพยาบาลคนนึงเดินมา เขาก็ไม่ได้สงสัยอะไร เพราะพยาบาลกับแพทย์ ก็ต้องเจอกันบ่อยๆอยู่แล้วระหว่างรอลิฟต์นักศึกษาคนนี้ก็ได้กลิ่นอะไรแปลกๆ ก็เลยหันไปมองพยาบาลคนนี้ ก็ไม่เห็นมีอะไรซ้ำพยาบาลคนนี้ยังยิ้มให้ด้วย สักพักต่อมาเมื่อเข้าไปในลิฟต์ พยาบาลคนนี้ก็ถามว่ามาทำอะไรดึกๆอย่างนี้เขาเลยตอบว่ามาศึกษาเรื่องการผ่าตัดภายใน เพราะว่าจะสอบ พยาบาลคนนี้เลยบอกว่างั้นให้ฉันช่วยนะนักศึกษาคนนี้ก็เลยงง และเริ่มสังเกตว่าคอของผู้หญิงเริ่มมีเลือดไหลออกมาจากคอเรื่อยๆเขาตกใจมาก พยายามที่จะหนีออกมาจากลิฟต์ แต่ลิฟต์เหมือนค้างหรืออะไรไม่ทราบเลือดไหลนองทั่วชุดของนางพยาบาลคนนี้ แล้วเธอก็เริ่มสอนนักศึกษาแพทย์คนนี้ตั้งแต่ลำไส้ ปอด สมอง หัวใจ พร้อมทั้งควักส่วนต่างๆเหล่านี้ออกมารุ่งขึ้นก็มีคนพบชายคนนี้ นอนคาอยู่ทางประตูลิฟต์ที่เปิดปิดอยู่ แล้วเขาก็เอาแต่พร่ำเพ้ออย่างคนบ้าว่า”พยาบาล ชุดแดง พยาบาลชุดแดง”* * *8.ลวดวงเวียนธรณีจุดนี้มีเรื่องเยอะจริงๆ เรื่องนี้นานมาแล้วมีนักศึกษาสองคนกินเหล้าเมากันมาพอมาถึงข้างตึกธรณี คนขี่มองไปทาง ข้างตึกอังกฤษ เห็นคนหัวขาดยืนอยู่ ตกใจจึงหยุดรถขยี้ตาดูอีกที แล้วสะกิดถามเพื่อน เพื่อนบอกไม่เห็นอะไร มองอีกทีก็ไม่มีแล้วหันกลับมาข้างหน้ามีลวดเส็นเล็ก ๆ ขึงอยู่ระดับคอ ห่างออกไปเมตรเดียว ถ้าไม่หยุดรถ คง!...พระเจ้าช่วย คนดีผีคุ้ม...* * *9. RB แพทย์อาคารเรียนรวมแพทย์ มีคนไปอ่านหนังสือกันสองคน พอดึก ๆ ก็ไปซื้อไก่ทอดมากิน เสร็จแล้วก็หาที่ล้างมือเจอก๊อกน้ำข้างตึกก็ไปล้างมือที่นั่น ตอนที่ล้างอยู่ เพื่อนอีกคนก็ทำหน้าตกใจมากแต่ยังไม่พูดอะไรคนที่ทำหน้าตกใจรีบจูงมือเพื่อนกลับมาใต้ตึกแล้วถามว่า รู้มั้ยเมื่อกี้เห็นอะไร...อีกคนบอกไม่รู้คนนั้นจึงบอกว่าเห็นผมของอีกคนซึ่งผมยาวชี้ขึ้นมากระจุกหนึ่งเหมือนมีคนจับขึ้นมารู้ทีหลังว่า ตรงนั้นเป็น ที่ล้างศพ!..* * *10.partner lab แลปฟิสิกส์อันนี้ฟังเค้าเล่ามาอีกทีเป็นเรื่องนานมาแล้ว เราเองก็มาไม่ทันเรื่องมีว่าเมื่อก่อนตอนที่ตึกเก้าชั้นวิดยายังไม่ได้สร้างแลปฟิสิกส์ของเด็กปี1ก็ยังทำที่แลปเก่า (น่าจะ เป็นตึกฟิสิกส์) แลปคราวนั้นเป็นแลปเรื่องแสงคนที่เคยเรียนคงรู้ว่าห้องจะมืดเพราะปิดไฟ และเป็นแลปมืดจริงๆ เพราะทำช่วงค่ำนักศึกษาหญิงคนนึงก็เข้าห้องแลปแต่พาร์ทเนอร์แลปยังไม่มา คนอื่นๆก็มากันแล้วเตรียมอุปกรณ์เสร็จ เพื่อนก็มาแต่ก้มหน้าก้มตาไม่พูดไม่จา ถามว่าเป็นอะไรก็ไม่ตอบเหลือบเห็นที่คอมีรอยแผลเป็นทางยาว เธฮจับไหล่เพื่อนถามว่าไปโดนอะไรมาเพื่อนเงยหน้าขึ้นมาแล้วหัวหลุดกลิ้งไปกับพื้น ผู้หญิงร้องกรี้ดแล้ววิ่งออกมาสลบตรงระเบียงฟื้นมามียามกับรุ่นพี่สองสามคน ถามว่าไม่รู้เหรอว่าวันนี้แลปงด เพราะเมื่อเช้ามีนักศึกษาในเซครถคว่ำตายเพื่อนเลยไปงานศพช่วงค่ำกันหมด สอบถามชื่อได้ความว่าคือพาร์ทเนอร์แลปของเธอนั่นเอง!ส่วนคนที่เจอในห้องแลปทุกคนล้วนแต่ไร้ชีวิต* * *11.ทางเดินคณะวิดวะมีคนสี่คนเข้าไปเล่นผีถ้วยแก้วตรงทางเดินยาวตรงข้ามหอ5ชาย วันนั้นฝนตกด้วย มีผีผู้ชายเข้ามาพอถามว่าชื่ออะไรไม่ตอบถามว่ามาคนเดียวใช่รึไม่ใช่ก็ตอบว่า ไม่ใช่ จึงถามต่อว่ามากันเท่าไหร เค้าก็ไปเลข 9คนเล่นรู้สึกกลัวขึ้นมา จึงเชิญออกแล้วรีบกลับมาที่หอ มีเพื่อนถามว่าไปไหนกันมา ก็บอกว่าไปเล่นผีถ้วยแก้วในคณะวิดวะเพื่อนก็ว่า "อ๋อ.... ที่ยืนมุงเยอะ ๆ ตรงทางเดินน่ะนะ ! "* * * * * * * * * * * *เพราะมันเป็นรถตู้มือ2ที่ บริษัทผมประมูลรถมาใช้งานอยู่บ่อยๆครั้งนี้ก็ได้รถตู้มาคันนึง สีขาว สภาพดีมากๆ คนขับรถบริษัทกับผมสนิทกันดีครับ พี่แกยังว่าคราวนี้ได้รถสภาพดีเชียวเอามาแทนคันเก่าที่ใช้มาหลายปี ว่าแล้วผมก็ลองนั่งเลย เอ..สภาพภายในดีนะพี่แต่ทำไมมันต้องกั้นห้องโดยสารกับห้องคนขับด้วยล่ะ ผมว่ามันเหมือนพวกรถพยาบาลเลยนะพี่..ผมพูดให้พี่แกฟัง แกยังคิดเหมือนผมเลยแต่..จะเป็นอะไรไปละรถพยาบาลสิดี เพราะว่าไม่ค่อยได้ใช้งานหนัก รถถึงได้สวยอย่างนี้ไง..เออ..จริงของแก..พี่เค้าเป็นคนรักรถมาก แกขยันล้างรถเกือบทุกวันแกว่าเป็นคนขับรถ จะปล่อยให้รถสกปรกไม่ได้..มันเหมือนเครื่องมือหากินของเรา พี่แกจะตื่นมาล้างรถแต่เช้ามืดประมาณ ตี 4 กว่าๆ หรือบางทีก็ตี 4 เพราะตี 5 แกต้องออกไปรับนายในเมืองทุกวันวันนั้นแกก็ออกมาล้างรถตามปกติ แต่พอเดินไปถึงที่จอดรถแกก็เห็นคนเดินสูบบุหรี่ เดินวนๆอยู่รอบๆรถตู้ของแก พอเข้าไปใกล้เจ้าคนนี้ก็เดินหายไปทางหลังรถ พี่แกก็นึกว่ายาม มาปิดไฟโรงรถ (นโยบายประหยัดไฟ ครับ ให้ปิดไฟตอนเช้ามืดทุกวัน) แกก็เรียกหาอยู่ก็ไม่มีใครตอบ ก็เลยขับรถออกไปล้างที่สนามฟูตบอล ที่นี้พอล้างเสร็จเดินเอาผ้าเช็ดรถไปผึ่งกับ ประตูฟุตบอล ระหว่างที่หันกลับมาที่รถ ก็เห็นคนยืนพิงรถสูบบุหรี่อยู่ แต่มันก็มืดพอควร เห็นไฟบุหรี่แดงวาบๆอยู่ แกเล่าว่าแกตะโกนเรียกเจ้าคนที่สูบบุหรี แต่มันก็ไม่ตอบเหมือนเดิม แกเดินมาจะถึงรถอยู่แล้วเจ้าคนที่สูบบุหรี่ก็เดินหลบไปหลังรถอีก..คงรูใช่ ไหมว่า แกหายังไงก็ไม่เจอ.. แต่เชื่อเลยครับว่า..ขนาดนี้แกยังไม่คิดว่าเป็นผีเลยนะแกว่าคงเป็นพวกยามนี่ แหละมาแกล้งแก ..เฮ้อตอนบ่ายนายให้แกเอารถไปเช็คที่ศูนย์บริการ แกก็เอารถไปทิ้งไว้เลยกะว่าพรุ่งนี้ค่อยไปเอาเพราะว่าศูนย์นี้ ให้เครดิตกับบริษัทเราตลอดมา..เช้ารุ่งขึ้นศุนย์บริการโทรเรียกให้ไปรับรถได้..พี่แกก็ไปรับรถจะกลับมาที่ บริษัท พอดีเจอกับผู้จัดการศูนย์เข้าพอดีก็เลยคุยกัน ผู้จัดการศูนย์บอกว่า..ยามที่เข้ากะเมื่อคืนเจอดีเข้าให้..ยามเล่าว่าประมาณ ตี1ตี2เห็นจะได้แกก็ออกเดินตรวจตามปกติ..แต่พอมาถึงรถตู้คันนี้ก็เห็นเหมือน คนยืนสูบบุหรี่อยู่ ตะคุ่มๆ 2 คนแกนึกว่าเป็นขโมยแน่ก็เลยฉายไฟไปที่จุดที่คนสูบบุหรีอยู่ พอยกไฟฉายส่องก็ไม่มีอะไรแต่พอเลื่อนไฟฉายไปตรงอื่นก็เห็นเหมือนเดิมครับ เป็นคน 2 คนยืนสูบบุหรี่อยู่ ยามว่า..ไม่ใช่คนหรอก..แก็เลยวิ่งกลับมาที่ป้อมยามแต่คราวนี้ได้ยินเสียง หัวเราะคิกๆคักๆด้วย..สติแตกเลยทีนี้ ต้องขอกำลังยามจุดอื่นมาอยู่เป็นเพื่อนจนถึงเช้าแน่ะ..พอพี่แกได้ฟังเรื่อง นี้แกบอกว่าขนลุกเลยเพราะว่าเหตุการณ์มันเหมือนกันมากเลย เป็นอันว่าแกก็โดนเหมือนกัน ก่อนจะเอารถกลับบริษัทก็เลยแวะหาหลวงพ่อที่วัด ให้ช่วยปัดรังควาญให้ จากนั้นก็ไม่เคยเจอกันอีกเลยครับ ..เรามาคุยกันที่หลังคิดว่ารถคันี้คงเป็นรถของโรงพยาบาลที่ไหนสักที่แน่ๆ มันก็เลยต้องเคยบรรทุกทั้งคนเจ็บ และคนตายมานั่นแหละ ก็เลยมีประเภทว่าไปไหนไม่ถูกเลยช่วยเฝ้ารถให้น่ะ แต่ตอนี้ไม่เป็นไรแล้วหลวงพ่อท่านชี้ทางสว่างให้แล้วนะ ไปไหนก็ไปเถอะ เพราะผมก็นั่งรถคันนี้อยู่บ่อยๆ ไม่อยากเจอนะครับ
เข้ามาศึกษาข้อมูลครับ ขอบคุณครับ :) ;/kiku