-ถุงน้ำตาอักเสบ (Dacryocystitis) ท่อน้ำตาเป็นส่วนหนึ่งของระบบน้ำตา* บางครั้งอาจมีเหตุทำให้ท่อน้ำตาอุดตัน มีน้ำตาเอ่อคลอเบ้าตา
ท่อน้ำตาอุดตัน เป็นโรคที่พบได้บ่อยในบ้านเรา พบมากในทารก และผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย
มักเป็นที่ตาเพียงข้างเดียว แต่ก็อาจเป็นทั้ง 2 ข้างก็ได้
เมื่อท่อน้ำตาอุดตันนาน ๆ ก็จะมีเชื้อโรคเข้าไป เกิดการติดเชื้อในถุงน้ำตา กลายเป็น ถุงน้ำตาอักเสบ
*ระบบน้ำตา (lacrimal system) ประกอบด้วยต่อมน้ำตา (lacrimal gland) ที่อยู่ใต้เปลือกตาบน ทำหน้าที่ผลิตน้ำตาออกมาหล่อลื่นและทำความสะอาดผิวหน้าของตา (ได้แก่ เยื่อบุตาและกระจกตา) น้ำตาที่ออกมาที่ตามีการไหลเวียน เปิดโอกาสให้มีน้ำตาใหม่เข้ามาแทนที่น้ำตาเก่า โดยน้ำตาเก่าจะไหลลงรูเปิดของทางเดินน้ำตา (lacrimal punctum ซึ่งเป็นรูเล็ก ๆ เปิดอยู่ที่ขอบเปลือกตาบนและล่างตรงมุมหัวตา) ผ่านคลองน้ำตา (lacrimal canal) ลงมาที่ถุงน้ำตา (lacrimal sac ซึ่งอยู่ตรงหัวตาข้างสันจมูก) และท่อน้ำตา (nasolacrimal duct ซึ่งทอดลงมาตามผนังด้านข้างของจมูก) ในที่สุดน้ำตาก็จะระบายลงโพรงจมูกด้านล่าง (Inferior nasal meatus)
สาเหตุ
ท่อน้ำตาอุดตัน ในทารกอาจเกิดจากท่อน้ำตายังเปิดไม่ค่อยสมบูรณ์ หรือเกิดจากมีเยื่อเมือกและเซลล์ที่อยู่ในน้ำคร่ำขณะที่อยู่ในครรภ์มารดาเข้าไปอุดตันอยู่ภายในท่อน้ำตา หรือเกิดจากเยื่อตาขาวอักเสบเนื่องจากการติดเชื้อแบคทีเรียขณะคลอด ทำให้มีขี้ตาลงไปอุด
ในผู้ใหญ่ การอุดกั้นของท่อน้ำตาอาจเกิดจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น รูเปิดของท่อน้ำตาตีบแคบลงจากความเสื่อมตามอายุขัยที่มากขึ้น, การได้รับบาดเจ็บตรงกระดูกข้างจมูก, เยื่อตาขาวอักเสบเรื้อรัง, ไซนัสอักเสบเรื้อรัง, ติ่งเนื้อเมือกจมูก (nasal polyps), สิ่งแปลกปลอมในท่อน้ำตา, เนื้องอกหรือมะเร็งในบริเวณจมูก, การผ่าตัดตา จมูกหรือไซนัส, การใช้ยาหยอดตารักษาโรคต้อหิน, การได้รับรังสีบำบัดบริเวณศีรษะหรือใบหน้าเป็นต้น บางรายอาจเกิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ
ถุงน้ำตาอักเสบ เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย (เช่น สแตฟีโลค็อกคัส, สเตรปโตค็อกคัส, ฮีโมฟิลุสอินฟลูเอนเซ) ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนจากท่อน้ำตาอุดตันนาน ๆ
ตรวจอาการเบื้องต้น: ท่อน้ำตาอุดตัน (Nasolacrimal duct obstruction) อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://doctorathome.com/symptom-checker