ความร้อนก็ยังไม่เสื่อมคลาย ยังร้อนได้ร้อนดี ยิ่งหน้าร้อนปีนี้ ทำท่าจะร้อนจัดกว่าเดิม ทำให้ทุกคนก็คงเตรียมตัวเตรียมใจ และเตรียมวิธีคลายร้อนเฉพาะตัวไว้แล้ว แต่อีกสิ่งที่สำคัญและไม่ควรละเลยก็คือการเตรียมเครื่องปรับอากาศให้พร้อม
ตรวจเช็กสภาพคอยล์ร้อน (Outdoor)
อันดับแรก ทำการตรวจสอบสภาพภายนอก หากมีคราบสนิมหรือสิ่งสกปรกเกาะที่แผงโลหะหรือตัวเครื่อง ควรล้างทำความสะอาดเสียก่อน จากนั้นตรวจสอบพัดลมโดยใช้มือหมุน หากพบว่าใบพัดฝืดหรือติดขัด ควรเรียกช่างมาตรวจเช็กแกนมอเตอร์และแบริ่งเพราะอาจมีสนิมเกาะ หรือสิ่งสกปรกติดที่แกนมอเตอร์ ซึ่งจะเป็นเหตุให้มอเตอร์ไหม้เมื่อเปิดใช้งาน
นอกจากนี้ ให้ตรวจสอบที่ขั้วไฟฟ้าของคอยล์ร้อนเพื่อตรวจสอบความแน่นหนา และเช็กว่ามีสนิมเกาะหรือสิ่งสกปรกติดอยู่หรือไม่ ทั้งนี้ เพื่อป้องกันกระแสไฟฟ้าลัดวงจรเมื่อเปิดใช้งาน ในกรณีของเครื่องปรับอากาศระบบอินเวอร์เตอร์ ซึ่งจะมีกล่องแผงวงจรอินเวอร์เตอร์ติดอยู่ที่คอยล์ร้อน ให้เช็ดหรือใช้ลมเป่าให้แห้งสนิท รวมถึงอุปกรณ์ทุกชิ้นส่วนที่ต้องแห้งสนิทเช่นกัน
ตรวจเช็กสภาพคอยล์เย็น (Indoor)
ถอดแผ่นกรองหยาบและแผ่นฟิวเตอร์ฟอกอากาศมาเคาะฝุ่น หรือทำความสะอาดโดยใช้แปรงขนนุ่มซักล้างและเป่าให้แห้ง เพราะฟิวเตอร์ทำหน้าที่กรองอากาศโดยจะดักจับฝุ่นและสิ่งสกปรกอื่นๆ ที่ปนเปื้อนอยู่ในอากาศไม่ให้ผ่านเข้าไปยังตัวแผงขดท่อคอยล์เย็น และเป่าเข้าสู่บรรยากาศภายในห้องได้อีก
เราควรจะดูแลทำความสะอาดฟิวเตอร์เป็นประจำ เพื่อไม่ให้เกิดการอุดตัน ซึ่งจะส่งผลให้คอยล์เย็นไม่สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และอาจทำให้เกิดน้ำแข็งเกาะที่ตัวคอยล์เย็น ส่งผลให้มีน้ำหยดจากตัวเครื่อง หรือที่เรียกว่า “แอร์รั่ว” ต่อมาให้ตรวจสอบความแน่นหนาของขั้วไฟฟ้าที่คอยล์เย็น และเช็กว่ามีสนิมหรือสิ่งสกปรกติดอยู่หรือไม่ เพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร จากนั้นทำความสะอาดตัวเครื่องและแผ่นปิดใต้ท้องเครื่องด้วยแปรงปัดฝุ่น และเช็ดด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ หรือใช้เครื่องดูดฝุ่นก็ได้ สุดท้าย ประกอบแผ่นกรองหยาบและฟิวเตอร์ใส่กลับเข้าไปในตัวเครื่องตามเดิมและตรวจสอบความเรียบร้อยอีกครั้ง
เมื่อทำการตรวจสอบทุกส่วนเรียบร้อยแล้ว ทดลองเปิดใช้เครื่องเพื่อทดสอบการทำงานในโหมดพัดลมประมาณ 15 นาที เพื่อตรวจสอบว่าใบพัดลมและแผงวงจรยังสามารถทำงานได้ตามปกติ ถ้าเครื่องปรับอากาศทำงานได้ตามปกติ จึงเปลี่ยนเป็นโหมด Cool เพื่อตรวจสอบการทำงานของคอยล์ร้อนว่าเป็นปกติหรือไม่
ด้วยวิธีการง่ายๆ เพียงเท่านี้ คุณเองก็สามารถดูแลถนอมเครื่องปรับอากาศของคุณให้รักษาระดับความเย็นคงที่ เตรียมรับหน้าร้อนนี้ แต่หากเครื่องปรับอากาศที่ใช้อยู่มีอายุการใช้งานมากกว่า 6 ปี หรือไม่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ก็ควรพิจารณาเปลี่ยนเครื่องใหม่ เพราะจะได้เครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่ที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดค่าไฟฟ้าได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศระบบอินเวอร์เตอร์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล่าสุดในปัจจุบัน ซึ่งช่วยประหยัดค่าไฟได้มากกว่ารุ่นปกติ ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คุ้มค่าน่าลงทุน
บริหารจัดการอาคาร: เช็คสภาพแอร์ ก่อนที่จะเข้าหน้าร้อน เพื่อประหยัดไฟ ประหยัดเงิน อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://snss.co.th/dt_post/technical-services/