ชักโครกไม่ใช่ถังขยะมหัศจรรย์ ที่เราจะทิ้งอะไรลงไปก็ได้ เพราะบางสิ่งบางอย่างที่เราทิ้งลงไปนั้น ไม่สามารถกำจัดให้หายไปได้ด้วยการกดชักโครก เพราะมันจะอุดตันอยู่ในท่อ กลายเป็นสิ่งเน่าเสีย ที่วันหนึ่งจะย้อนกลับมาทำลายสภาพแวดล้อมของเรา และทราบหรือไม่ว่าจากการที่คนจำนวนไม่น้อย ไม่เข้าใจในจุดนี้ ทำให้ในแต่ละเดือน แต่ละปี คนมีปัญหาเรื่องท่อตันกันเป็นล้าน ๆ ครั้ง และเพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว เราควรจะต้องทราบว่า 11 สิ่งต่อไปนี้ เราต้องไม่ทิ้งลงไปในชักโครกอย่างเด็ดขาด
1.กระดาษทิชชูเปียก : ทราบหรือไม่ในช่วงไม่กี่ปีหลังจากที่มีการผลิตกระดาษทิชชูเปียกสำหรับทำความสะอาดเด็กออกจำหน่าย ปัญหาท่อตันก็เกิดขึ้นทั่วไปหมด เพราะผู้ใหญ่จำนวนไม่น้อยเลือกใช้กระดาษแบบนี้ในการทำความสะอาดเด็ก ๆ กันเป็นประจำ เมื่อใช้เสร็จ ก็ทิ้งลงชักโครก แม้ว่าจะมีคำแจ้งเตือนที่หน้าซองอยู่ก็ตาม ว่าไม่ให้ทิ้งลงชักโครก แน่นอนว่า กระดาษแบบนี้ใช้ง่าย ทิ้งง่าย กดลง แต่มันไม่สามารถย่อยสลายได้และก่อให้เกิดการอุดตัน และส่งผลเสียต่อระบบการกำจัดของเสียอีกด้วย เพราะกระดาษพวกนี้ มีส่วนผสมของไฟเบอร์พลาสติก วิธีที่ถูกสำหรับการทิ้งกระดาษทิชชูเปียกก็คือ ทิ้งลงถังขยะ
2.ถุงยางอนามัย : แม้จะเป็นการสะดวกที่จะทิ้งลงในชักโครก แต่นั่นไม่ใช่ที่ทิ้ง เพราะถุงยางเหล่านั้นจะอุดตันในท่อ ทำให้ต้องเสียเวลา และเสียงบประมาณในการมาแก้ไขที่ทิ้งที่ถูกต้องก็คือถังขยะเช่นกัน
3.ยาต่าง ๆ : ยาที่เราไม่ใช้แล้ว หรือยาหมดอายุ ก็ไม่ควรจะทิ้งในชักโครกเช่นกัน แม้ว่าจะดูเหมือนเป็นการปลอดภัย ต่อการที่เด็ก หรือสัตว์เลี้ยง แต่การทิ้งยาลงในชักโครกนั้น ส่งผลกระทบต่อระบบการกำจัดของเสีย ในกรณีที่มีการนำสิ่งปฏิกูลเหล่านี้ ไปใช้เป็นปุ๋ย ก็จะส่งผลต่อต้นไม้ นอกจากนั้น ตัวยาอาจจะละลายลงดิน และลงสู่แหล่งน้ำได้ในที่สุด สถานที่ทิ้งที่เหมาะที่สุดก็คือ ถังสำหรับทิ้งยาของสถานพยาบาลในท้องถิ่นที่เราอาศัย
4.สารเคมีต่าง ๆ : การทิ้งสารเคมี พวกน้ำยาทำความสะอาด หรือสารเคมีอื่น ๆ ลงในชักโครก ก็ส่งผลเสียในลักษณะเดียวกับการทิ้งยาลงในชักโครก วิธีที่ถูกก็คือ ไม่เททิ้ง และหาที่ทิ้งลงในถังที่แยกไว้สำหรับการทิ้งสารเคมี
5.สำลี ทิชชู กระดาษเช็ดมือ : ของเหล่านี้เราอาจจะคิดว่า มันไม่ต่างอะไรกับกระดาษชำระ แต่จริง ๆ แล้ว เมื่อเราทิ้งลงชักโครก และกดน้ำไป จะมีผลที่แตกต่างกัน เพราะกระดาษชำระ สามารถแตกตัวได้ ในเวลาไม่กี่วินาที แต่สิ่งเหล่านี้ ไม่แตกตัว และอาจจะอุดตัน กลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค ของเหล่านี้ ต้องทิ้งลงในถังขยะ
6.ผ้าอนามัย : ผ้าอนามัยทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นแบบแผ่น แบบสอด เราทิ้งลงในชักโครกไม่ได้ เพราะมันจะอุดตันในท่อ ยากต่อการนำออกมา เพราะผ้าอนามัยเหล่านี้ จะดูดน้ำ และขยายตัวอยู่ในท่อ ต้องทิ้งในถังขยะ
7.ผ้าอ้อม : เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ก่อปัญหามาก คนบางคนบอกว่า เขาสามารถม้วนผ้าอ้อม ให้มีขนาดเล็กเพียงพอที่จะใส่เข้าไปในชักโครกได้ แต่แน่นอนว่า เมื่อใส่ลงไปแล้ว มันก่อให้เกิดปัญหาอุดตัน และยากต่อการแก้ไขเช่นกัน
8.เส้นผมและไหมขัดฟัน : ถ้าเราเห็นว่าเส้นผมที่ร่วงออกมานั้น อุดท่อระบายน้ำ ตอนที่เราอาบน้ำอย่างไร เราก็จะเข้าใจได้ว่า เวลาใส่ลงไปในชักโครกแล้ว มันจะอุดตันในลักษณะเดียวกัน เส้นผม และไหมขัดฟัน ไม่แตกตัวเมื่อโดนน้ำ และมันจะกลายเป็นสิ่งกีดขวางในท่อน้ำ
9.ทรายแมวและอึแมว : แน่นอนว่า ไม่มีใครอยากมาขุดทรายแมวเพื่อตักอึแมวออก แต่ทั้งนี้เราไม่ควรกำจัดด้วยการนำไปเทในชักโครก ทรายแมวทำให้เกิดการอุดตันในท่อน้ำ และก่อให้เกิดความเสียหายภายในท่อได้ แม้แต่อึแมว ก็ไม่ควรทิ้งลงไป เพราะอาจจะมีพยาธิ ส่งผลต่อระบบการกำจัดของเสียเช่นกัน
10.ซากสัตว์: รวมไปถึงสัตว์เลี้ยงตัวเล็ก ๆ อื่น ๆ ไม่ใช่สิ่งที่จะทิ้งลงในชักโครก เพราะซากสัตว์เหล่านี้ อาจจะมีเชื้อโรคและพยาธิ ก่อให้เกิดผลเสียต่อระบบน้ำ หากเกิดการอุดตันก็ก่อให้เกิดเชื้อโรค ซากสัตว์เหล่านี้ เราควรกำจัดด้วยการฝัง หรือทิ้งขยะก็ได้
11.อาหาร : ชักโครกไม่ใช่ที่กำจัดขยะจากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นกากกาแฟ หรือเศษอาหาร ก็ไม่ควรทิ้งลงในชักโครกทั้งนั้น เพราะมันจะอุดตันในท่อเช่นกัน
ซ่อมบำรุงอาคาร: สิ่ง “ห้าม” ทิ้งลงในชักโครกเด็ดขาด อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://snss.co.th/dt_post/technical-services/