collapse
  • บันทึกลับ..บทที่ 1"กว่าจะมาเป็น...ผม(พงษ์ นวดประกอบเพลง) 4 16
Currently:  

ผู้เขียน หัวข้อ: บันทึกลับ..บทที่ 1"กว่าจะมาเป็น...ผม(พงษ์ นวดประกอบเพลง)  (อ่าน 229357 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 4 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ พงษ์

  • PREVILEGE MEMBER
  • *
  • กระทู้: 11,494
  • Total likes: 7055
  • คะแนนพิเศษ: +1857/-1





บักทึกลับ ตอนที่1





สวัสดีครับสมาชิกที่ผมรัก และ เคารพทุกคนครับ 

         คิดอยู่นานผมจะเขียนขึ้นมาดีไหม..? มีหลายคนถามผมว่าจุดเริ่มของผมเป็นมายังไง เข้ามามุมนี้ได้ยังไง และจะหยุดลงตรงไหน?
อย่างบ้านหลังนี้ก็เหมือนหลายอย่างของผมที่มีพี่ๆ ร่วมกันสร้างเรื่องราว สร้างความทรงจำต่างๆอีกส่วนหนึ่งของชีวิต  ที่แห่งนี้เราเป็นเหมือนครอบครัวเดียวกัน ครอบครัวใหญ่หลังนี้ ขอให้จุดต่อไปของผม เป็นอีกส่วนหนึ่งของเรื่องราวที่มี พี่ๆสมาชิกอีกมุมที่ทำให้ผมได้จดจำ หลากหลายความรู้สึก หลากหลายความทรงจำ ไปตลอดไปนะครับ



           ผู้ชายบ้านนอก คนหนึ่ง  เดินทางเข้ามาหางานทำ พร้อมกระเป๋า1 ใบ กับความหวัง แค่มีงานทำ พอใช้ ส่งกลับบ้าน ช่วยเหลือครอบครัว อีกทางหนึ่ง เพราะครอบครัว มีเพียงพื้นนาผืนเล็กๆ กับอาชีพหลักคือทำนา เพียงเพื่อพอกิน หากปีไหนนาแล้ง น้ำท่วม มีเพียงวิธีเดียวคือ กู้เงิน ธกส. ผมก็อยู่กับความพอใจกับวิถีชีวิตนี้มาตลอด ช่วยพ่อกับแม่ทำนามาตั้งแต่เด็ก แต่พอเรียนจบความคิดที่จะรับผิดชอบครอบครัวก็มีขึ้น เพราะอาชีพทำนา คงไม่พอที่จะช่วยให้ครอบครัวดีขึ้นไปกว่านี้ พ่อกับแม่ก็แก่ขึ้นทุกวัน รอทำนาแค่ปีละครั้ง
         ความคิดที่จะเข้าเมืองใหญ่ก็ แค่ความจำเป็น  และมาพร้อมกับความหวาดกลัวในเมืองที่วุ่นวายนี้ ว่าจะเจออะไรบ้าง เพราะชีวิตส่วนใหญ่อยู่แต่ต่างจังหวัด อาชีพหลักที่พอจะสู้กับเขาได้ก็คือ ความอด ความสู้และทน จากท้องไร่ท้องนา ที่ได้คำสั่งสอนจากแม่ ว่าต้องอดทน ไม่ว่าจะเหนื่อยจะท้อ ขนาดไหน มันยังติดอยู่ในหัวเสมอครับ

          เข้ามาสู้ในเมืองใหญ่เมืองนี้ มีเพียงความรู้เล็กน้อยที่สู้ทน ก็เรียนมา  แต่ความคิดสำคัญที่ชาวไร่ชาวนาอย่างครอบครัวผม ความรู้การเรียนสูง การตั้งใจส่งเสียไม่ได้มีความจำเป็นเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วแรงกายต่างหากที่สำคัญสุด  แม้จะมีความรู้เพียงน้อยนิดแต่ก็เพื่อเป็นใบเบิกทางให้อุ่นใจ มีเพียงสิ่งเดียวนี้ กับเมืองใหญ่เมืองนี้ พร้อมกำลังใจจากพ่อกับแม่
          ช่วงที่มาอยู่ในกรุงเทพฯ ผมนั่งคิดนอนคิดเสมอ ว่าที่แห่งนี้ช่างอึดอัด ช่างคับแคบ ทั้งที่มีทุกอย่างที่เราต้องการ มีทุกอย่างที่เราอยากได้ แต่ไม่รู้จะทำยังไงจะได้มา อาจเพราะผมแทบจะไม่รู้จักใคร ไม่รู้ใจใคร ไม่มีเงินเก็บแม้แต่ แดงเดียว เงินที่ได้ติดมาเพราะขายข้าวเพื่อประคองไปก่อนก็ไม่มากพอที่จะอยู่ได้นานมากนัก  มีญาติก็ไม่อยากรบกวนเขามาก แม้จะพร้อมช่วยเหลือยามขัดสน แต่ก็อย่างว่าล่ะครับ ถ้าเราไม่พยายามช่วยเหลือตัวเองก่อนแล้ว คนอื่นเขาก็จะมองยังไงก็ไม่รู้  มีเพื่อนซี้ที่มาด้วยกัน  มีกันแค่นั้น ต่างคนต่างไม่มีหลัก ประกัน ว่าอนาคตจะเป็นยังไง แค่วันนี้ แค่พรุ่งนี้ ได้คงอยู่ก็น่าจะดีที่สุดแล้วในตอนนั้น 
         ทุกๆวัน ก็ได้แต่หาทุกวิถีทาง เพื่อจะสมัครงานให้ได้ ทั้งทางหนังสือพิมพ์ อินเทอร์เนต หรือ แม้แต่เดินตามถนนหนทาง กับการติดประกาศ สมัครงาน  จากวัน เป็นอาทิตย์ กลายเป็นเดือน และหลายๆ เดือน งานมันช่างหายาก ทำไมหลายๆ คนบอกว่างานมีทุกที่ งานมีหลากหลายแต่ทำไม่มันยากเย็น สำหรับ คนบ้านนอกอย่างเรา  แถม เงินมันช่างอยู่ไกลมือเหลือเกิน ความฝันที่จะมีอะไรดีขึ้นมันมองไม่เห็นซะเลย

            บางครั้งมันเหนื่อย มันท้อ กว่าการได้มีงานหนัก ๆ งานเยอะๆทำด้วยซ้ำครับ  เพราะการที่เราไม่มีอะไร แม้จะรองรับความเป็นอยู่ในวันนี้ ในวันพรุ่งนี้ มันทรมานกับอนาคตที่จะเป็นไป            มันหวาดกลัวไปหมด  เราจะอยู่ได้ยังไง จะอยู่ในเมืองใหญ่เมืองนี้อีกนานเท่าไหร่          ครั้นจะกลับไปบ้านนอก พ่อกับแม่ ครอบครัวจะ รู้สึกอย่างไร อีกคนที่เป็นห่วงคือ พ่อกับแม่ที่คอยฟังข่าวดี จากผมก็กลายเป็น  ท้อ กว่า ผมเป็นร้อยๆ เท่า หลายๆครั้งที่กำลังใจที่ท่านให้มา มันใช้ไปหมด ..........วันแล้ววันเล่า

         การที่จะรอ งานที่เราอยากทำ งานที่เขาต้องการ ทำไม่มันนาน มันไม่มาซักที บางครั้งก็ได้แต่โทษตัวเอง ........... นี่หละหนา  ลูกชาวไร่ชาวนา  เด็กบ้านนอกๆ  อย่างเรามันด้อยค่าขนาด งานอะไรก็ได้ที่เรา อยากทำจะไม่มีใครต้องการเลย หรือ........? ความรู้สึกนั้นยังคงติดในความทรงจำไม่ลืม ภาพมองขึ้นฟ้า แล้วน้ำตามันไหล ออกมา แม้จะจะเป็นท้องฟ้าเดียวกัน แต่ท้องฟ้าตอนนั้นทำไม่มันมืดมน ไม่สดใสเหมือนที่บ้านเราเลย  คิดถึงบ้าน ผมคิดถึงพ่อแม่พี่น้อง เหลือเกิน....................ครับ

         จนท้ายสุด ภาพแม่ยืนมาส่งวันขึ้นรถมาวันแรก กับห่อข้าวเหนียว ห่อโต พร้อมรอยยิ้มกับคราบน้ำตาก็ทำให้ผมลองสู้....... เฮือกสุดท้ายก็ลองสู้ทนกับ งานอะไรก็ได้ที่ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน เพื่อต่อชีวิตใน

 วันนี้ และยืดชีวิตให้กับพรุ่งนี้  ผมก็ไม่ได้เลือกที่จะทำ  ทนไปก่อน แล้วรองานที่เราสมัครทิ้งไว้  เผื่อเขาเรียก ก็สมัครไปเรื่อยๆ ครับ  โดนหลอกก็เยอะหลอกให้ทำงานจนสุดตัว  แต่ค่าแรงค่าจ้างก็ไม่ได้

     บางครั้งมันเจ็บใจจนน้ำตามันไหลออกมา แบบไม่รู้ตัว  เพราะไม่คิดว่าคนที่เราช่วย ทำกับคนที่แทบไม่มีอะไรเลย ก็แค่ค่าจ้างที่เราจะต้องได้เท่านั้นเอง  แต่สิ่งที่ได้คือประสบการณ์ครับ ทำให้เราสู้ ทำให้เราได้เรียนรู้จริง ได้รู้ว่ามีอีกมากมายที่เราไม่เคยเจอ และอีกมากมายที่เราจะต้องเจอ คนมาหลากหลาย มีหลายหลาก บางคนมาดี บางคนพูดไม่ดีกับเราแต่ก็หวังดีกับเรามาก บางคนมาแกล้งพูดดีต่างๆ นาๆ ใจคนหยังยาก เวลาก็จะเผยให้เห็นครับ
                เลยหันมาทำงานรายวัน ทำ  ทำมาหลายอย่างเลยครับ อย่างพนักงาน711, MAC,  ขายหน้าร้าน , เด็กเสิร์ฟ ร้านอาหาร ,แจกใบปลิว หลายอย่างครับแต่ก็ชอบนะครับถึงจะเหนื่อย อย่างน้อยก็ได้มิตภาพจากเพื่อนร่วมงาน ได้ประสบการณ์ดีๆ จากงานๆนั้นเพราะทุกคน ก็คือคนสำคัญต่อเราที่เราต้องติดต่อ ได้เรียนรู้ความอดทนได้เรียนรู้ การเอาตัวรอด ด้วย ก็เริ่มมีคนแนะนำ ตรงนั้นตรงนี้อยากลองอะไรใหม่ๆ  ที่ดีขึ้นหลายอย่าง ก็อย่างที่บอกล่ะครับ ประสบการณ์ จริง สอนให้เราระมัดระวัง สอนให้เราอดทน สอนให้เราเรียนรู้จริงกับการใช้ชีวิตในเมืองใหญ่เมืองนี้จริงๆ

           จนกลายมาถึงสิ่งที่ทำให้ผมหันมา เข้าสู่วงการณ์ ที่ค่อยๆเดินย่าง เข้ามาไกล้กับงานๆนี้ เพราะ เริ่มมาเล่นกีฬา เริ่มมีเพื่อนชวนออกกำลังกาย จนเริ่มเอาจริงเอาจัง และมีความคิดที่จะเรียนต่อไปด้วยเพื่อเป็นเหมือนใบเบิกทาง แม้จะเหนื่อยหน่อย ทำงานไปด้วย เรียนไปด้วย แต่ก็สู้ครับ เพราะมันจะเป็นสิ่งเดียวที่ผม จะสู้คนอื่นได้ เพราะความรู้นี่เอง  แต่ที่คิดหนักก็คงเป็นเรื่องค่าใช้จ่าย ทั้งในชีวิตประจำวัน ต้องส่งให้ที่บ้าน และเรื่องเรียน มันเหมือนหนักหนา เหลือเกิน เพราะรายได้มันไม่ได้รองรับในหลายๆเรื่องรวมกัน
          งานที่ผมรู้สึกภูมิใจมากที่สุดคือ ได้เป็นครูฝึก ออกกำลังกาย (เทรนเนอร์) เพราะมันช่วยให้คนที่ท้อ กับ สุขภาพ บุคลิคภาพ และสร้างความแข็งแรงให้กับหลายๆคนสร้างกำลังใจหลายๆ อย่าง และ จุดเริ่มที่ผมมาดูแลตัวเองมากขึ้น จนเริ่ม มีคนเข้าหา มากขึ้นแนะนำดี บ้าง ไม่ดีบ้างก็ไม่ถือครับ ถือเป็นประสบการณ์ชีวิต  ตอนนั้นผมรับเป็นครูฝึก ทั้งเรียน พร้อมทั้งทำงานเสริฟตามร้านอาหาร แบ่งวันแบ่งเวลาจนลงตัว และก็ได้มารู้จักกับพี่คนหนึ่ง ที่เป็นจุดเริ่มให้เขามา...........รู้จัก วงการนี้



         มีเวลาจะมาเขียนต่อนะครับ
(ผิดพลาดประการณ์ใดต้องขอโทษเป็นอย่างมากนะครับ


ครั้งแรกที่ผมเขียนอะไร ยาวๆ ขนาดนี้ ผิดๆถูกๆ ไปบ้างอย่าว่ากันนะครับ

 {flower4}






บักทึกลับ ตอนที่2





สวัสดีครับพี่ๆ น้องๆสมาชิกที่รักทุกคนครับ

ขอบคุณมากๆกับการติดตามเรื่องราวของผมนะีครับ

อย่ามองว่าเป็นเรื่องเครียดๆ นะครับ ถือ ว่าเป็นอีกมุมของบ้านที่ทำให้รู้จักกับตัวผมมากขึ้น ที่มีหลายๆ มุม
และหวังว่าจะเป็นประโยชน์ ในการต่อสู้กับปัญหาต่างๆนะครับ เรื่องไหนที่ไม่ดี ก็ปล่อยทิ้งไปคิดซะว่า เป็นอดีตที่เกิดขึ้นแล้ว
วันนี้ เราต้องทำให้ดี ที่สุดและ พรุ่งนี้ก็จะเป็นวันดีๆ ของเราครับ

                การที่ผมเริ่มเล่าตั้งแต่ที่ผมมาอยู่กรุงเทพฯหรือ พูดถึงแต่ฐานะที่ที่พร้อมหรือเรื่องเงินทอง ไม่ได้มีความหมายเพื่อตอกย้ำว่าคนเราฐานะที่ขัดสนจะต้องเข้ามาในวงการหรือต้องเลือกที่จะทำงานตรงนี้ แต่ก็แค่อยากให้รับรู้แค่ว่า ทุกๆอย่างที่ดำเนินมาจวบจนถึงทุกวันนี้ มันดำเนินมาโดยที่ผมเองไม่ได้คาดว่าจะเป็นยังไง  หรือ ดำเนินมาแบบไหน แค่เราต้องสู้ทนกับสิ่งต่างๆที่เราต้องเป็นอยู่ สู้กับวันนี้ให้มันดีขึ้นกับการดำเนินชีวิตในพรุ่งนี้ให้ไม่มีปัญหา ก็แค่นั้นจริงๆครับ.......
                   ที่จริงผมไม่เคยคิดว่าจะมาถึงจุดๆนี้ ในงานๆนี้ด้วยซ้ำ ไม่คิดว่าจะมีคนพูดถึงในเรื่องแบบนี้ ไม่คิดว่าจะมีรูปแบบการนวดแบบนี้ ไม่เคยคิดว่าจะมีเว็บไซด์ เป็นของตัวเองด้วยซ้ำครับ ไม่เคยคิดอะไรหลายๆอย่างที่มันเกิดขึ้นในถนนสายชีวิตแห่งนี้ด้วยครับ
                   ต่อเรื่องเลยนะครับ....หลังจากที่แบ่งเวลา แบ่งความคิด แยกการใช้ชีวิต ว่าระหว่างงานนี้ต้องคิดมุมนี้ งานตรงนี้ต้องบริการแบบนี้ ก็ค่อยๆ ปรับครับ เพราะช่วงแรกๆก็รวนๆ เพราะแต่ละงานแต่ละอย่างมันคนละแบบ เลย และผมก็ไม่เคยทำงานพวกนี้มาก่อน   แต่ก็สนุกและรู้สึกมีคุณค่ามากขึ้น แม้จะเหนื่อยต้องวิ่งตามเวลา วิ่งตามคนที่เราต้องทำด้วยให้ทัน เพราะบางงานบางอย่างต้องมาเรียนรู้ใหม่ และทำให้เราขยันเรียนรู้มากขึ้น ขยันทำงานมากขึ้นแม้จะต้องวิ่งหลายๆทาง  เพราะมันมีการแข่งขันในที่ต่างๆให้เราเห็น....และ ในเมื่อฟ้าเขาให้โอกาสนี้กับผมแล้ว…..ผมต้องทำให้ดีที่สุดและทำให้ถึงที่สุด .....
    ช่วงนั้นผม มี 3 อย่างที่ต้องทำในช่วงเดียวกันคือ เรียนต่อ เป็นครูฝึกและเริ่มฟิตหุ่นอย่างจริงจังเพราะจะได้รู้จริงทั้งทางปฏิบัติและเรียนรู้ทฤษฎีจนกลายเป็นนิสัย และ กลางคืนไป ทำงานที่ร้านอาหารกับเพื่อน แถวสุขุมวิท แต่สนุกและรู้สึกดีครับ  แม้จะวิ่งทำหลายอย่างพร้อมกันแต่รายได้ที่มีขึ้นก็ทำให้ขยันมากขึ้น ไม่ต้องคิดมากกับค่าใช้จ่ายเหมือนเดิม ช่วงที่ทำงานอยู่ร้านอาหารนี่เอง ได้รู้จักกับพี่คนหนึ่ง...เป็นลูกค้าประจำที่ร้านอาหารที่ผม ทำอยู่พี่เค้ามากินทุกวันจน คุยกันถูกคอ และจะมานั่งโต๊ะที่ผมรับผิดชอบทุกวัน  เป็นเดือนๆ วันไหนที่แกไม่มาผมก็เหมือนขาดอะไรไป อาจเพราะคุยกับแกแล้วสนุกไม่เครียดครับ แกก็บอกว่าถูกชะตากับผม และเหมือนเป็นพี่อีกคนที่สนิท และ ให้คำแนะนำ เรื่องต่างๆจนรู้ถึงความจริงใจของพี่เค้าครับ คอยช่วยในหลายๆเรื่อง ตามสมควร  ในช่วงที่ผมอยู่เมืองใหญ่เมืองนี้เมืองที่วุ่นวายเจอหลายๆคน ก็มีคนดีๆ ที่ทำให้เราได้รู้จัก ได้คอยปรึกษาคอยไถ่ถามทุกข์สุข เพราะผมเองมาช่วงแรก แทบต้องเรียนรู้ทุกอย่าง เรียนรู้การเอาตัวรอดในเมืองนี้ และไม่ค่อยเชื่อใจใครอะไรง่ายๆ หลังจากเจอคน หลอกมาหลากหลายรูปแบบ.......
               ผมทำงานอยู่สักพัก ผมก็เริ่มเป็นครูฝึกเต็มตัว เริ่มงานมากขึ้น มีคนเข้าหามากขึ้น แต่ก็เจียมตัวเองเสมอครับ ว่าคนบ้านนอกๆอย่างผม เขาจะอยากมาอะไรมากมายด้วย......ส่วน งานร้านอาหารก็มาน้อยลงเพราะเวลาเลิกดึก ตื่นไปเรียนไปทำงานลำบากเลยต้องไปบ้างบางวัน” และแล้ว”
          ช่วงที่มีปัญหาใหญ่เรื่องเงินก็เกิดขึ้น กับที่บ้าน เพราะที่นาที่ไปจำนองไว้ เกิดปัญหา  ปัญหานี้ก็เป็นก่อนผม ขึ้นมากรุงเทพฯ ตั้งแต่ผมยังเด็กๆแล้ว แต่ก็สะสมมาเรื่อยๆ เป็นเรื่องของพ่อกับแม่เค้า แต่แกก็พยายาม เก็บไม่ยอมบอก แต่พออะไรมันหาทางออกไม่ได้ เลยบอกลูกๆ ทุกคนให้รู้ว่านี่คือปัญหาใหญ่ แต่ก็ไม่ได้บอกให้ใครมาช่วยและรับผิดชอบ แค่บอกให้รู้ว่าต่อไป หัวใจของครอบครัวเราอาจจำเป็นต้อง มีปัญหาในวันข้างหน้า แล้ว................
         ช่วงนั้นเงินก้อนที่ผมมีก็คงมีแค่ใช้จ่าย นิดหน่อย เท่านั้น ส่งไปให้พ่อกับแม่ได้ใช้ตามที่มีอยู่ แถมผมก็อยู่อย่างประหยัดมากๆ ครับ   แต่จะมีปัญญาที่ไหนมาหาเงินก้อนใหญ่ขนาดนี้...มาช่วยแก้ปัญหาที่ใหญ่เช่นนี้.....คิดมากเหมือนกันครับ เพราะผมอาจต้องกลับไปอยู่บ้านทำงานที่ต่างจังหวัด ยุติชีวิตในเมืองใหญ่เมืองนี้ไปอยู่ที่บ้าน แต่ก็เสียดายกับหลายๆอย่างที่กำลังเริ่มต้นไปในทางที่ดี คิดหาวิธีหลายอย่างก็จนปัญญา จนพี่ที่ผมรู้จักที่ร้านอาหาร ผิดสังเกตว่าผม ดูเงียบๆ แปลกๆ ผมเลยพูดปัญหาให้เขาฟัง แต่ก็ไม่ได้คิดไปรบกวนพี่เขาหรอกนะครับ  .......อาศัยว่า ระบายบ้างก็คงดีกว่าเก็บไว้ในใจ
     แต่พี่เค้า เสนอตัวว่าจะช่วย.” มีอะไรช่วยได้ก็จะช่วย” ตัวผมเองก็ไม่คิดจะรับอะไรอยู่แล้ว...เพราะปัญหานี้มันเป็นปัญหาของครอบครัว และก็ไม่ค่อยอยากให้คนที่ผมรู้สึกดีด้วยมายุ่งเรื่องเงินๆทองๆแบบนี้ แค่พี่เค้าให้คำแนะนำและให้เกียติมารู้จักมาคบค้าสมาคมกับเด็กบ้านนอกอย่างผมก็เป็นบุญที่สุดที่ผมได้มาเจอแล้วครับ       แต่พี่เค้าก็ยินดีต่างๆนา จนผมสบายใจที่จะรับกับความช่วยเหลือที่มีค่านี้        ใจจริงมันเป็นสิ่งที่ดีเหมือนยืดชีวิตให้ผม ให้พ่อกับแม่ ให้ครอบครัวผมด้วยซ้ำ......แต่ ที่กลัวคือ คำขอบคุณและคำสัญญาที่จะทดแทนชดใช้เมื่อพร้อมคงไม่มีค่ามากพอที่พี่เค้ามาช่วยเหลือแบบเต็มใจ รึเปล่า ผมกลัวมากกว่าครับ  ...........ผมรีบถามสิ่งตอบแทนไหนที่ผมจะทำได้แม้ต้องใช้เวลานานขนาดไหน เหนื่อยขนาดไหนผมก็รับปากว่าจะช่วยให้เทียบเท่ากับสิ่งที่พี่เค้าช่วยมา
         ผมรีบ บอกพ่อกับแม่ว่า ผมยินดีจะหาทางช่วยอีกทาง ผมได้ยินเสียงร้องให้เพราะความดีใจ แค่นี้ผมก็เหมือน ความทุกข์ใจได้ถูกปลดออกจากไป มาเป็นทอดๆจากผมสู่พ่อแม่ สู่ครอบครัวของเราจริงๆ ครับ
        ผมก็ปรึกษา พี่เค้าหลายอย่างเรื่องหารายได้ต่างๆ เพิ่มขึ้น หาทางที่ผมจะตอบแทนต่างๆนาๆ แต่งานมันก็ต้องใช้เวลาใช้ความอดทน จนมีเพื่อนสนิทแกอยู่ อีกคนชื่อ พี่วี........สนใจอยากออกกำลังกาย และ เป็นการหารายได้อีกทางของผมที่พี่เค้าช่วยได้บ้าง และผมก็ยินดีมากๆ ช่วงที่ผมเทร็น.ก็คุยต่างๆนาๆ  พี่เค้าคงคุยปัญหาให้พี่วี ฟัง
           .......และ”พี่วี”คนนี้เอง.....ก็เริ่มเล่าเรื่องานของพี่เค้าให้ผมฟัง.....พี่วีเขาเคยทำเป็นPR(พนักงานต้อนรับลูกค้า) ในร้าน สปา และส่งเด็กให้ลูกค้าใหญ่ๆ มาก่อนแต่ตอนนี้ แยกออกมาทำเอง   ตอนนี้ต้องการพนักงานรับงานพิเศษและ ได้รับรู้ปัญหาเรื่องที่เกิดขึ้นจากพี่เค้า เลยอยากช่วยให้ผมพอมีรายได้อีกทางเลย ......เสนองานพิเศษให้ผม และ อยากได้ผมไปร่วมงานมากๆด้วยเพราะลูกค้าชอบแนวผมจำนวนมาก แต่พี่วีเองเขาก็มีเด็กในสังกัด หลายคน หลายแบบตามที่ลูกค้าต้องการก็จะส่งเด็กตามที่ลูกค้าสนใจ
รูปแบบงาน จะเป็นลักษณะแนวเอสคอร์ทเพื่อนเที่ยว ,เพื่อนกิน คือ ไม่มีการนวดเป็นเรื่องเป็นราวนะครับ แต่อาจต้องดูแล เท็คแคร์ ลูกค้าไม่ว่าจะไปทานข้าว ดูหนัง เที่ยวพักผ่อนต่างๆ ตามแต่ลูกค้าต้องการในระยะเวลาที่ตกลงกัน  หลังจากที่พี่วีพูดรายละเอียดรูปแบบงานและ รายได้ ให้ฟังต่างๆนาๆ  ทั้งเวลารับงานก็ไม่กระทบงานประจำด้วย
ผมเองก็ไม่คิดว่าผมจะทำได้อยู่แล้ว และ คงไม่ทำแน่นอนครับ เพราะเหตุผล หลากหลายต่างๆนาๆ   หลังจากที่คุยกันครั้งแรก  ผมก็เทร็นพี่วีเกือบเดือน  พี่วีก็ ตื้อผมอยู่นานครับ แต่ผมเองก็ยังยืนยัน ว่าผมทำงานนี้ไม่ได้จริงๆ กลัวหลายๆอย่าง และ คงทำไม่ได้จริงๆ  จะทำให้งานพี่เค้าเสียซะเปล่าๆ
      แต่ไม่รู้ว่าโชคชะตา หรือ อะไรก็ไม่รู้ดึงผมให้เดินเข้าหาทางเส้นนี้  ผมก็มีปัญหาเรื่องเงินอีกรอบคือ เพื่อนสนิทที่เคยพักด้วยกันต้องย้ายไปอยู่กับญาติและไปทำงานช่วยที่บ้านด้วย   ผมเลยต้องอยู่คนเดียว ทั้งเรื่องค่าห้อง  ค่าเรียนที่ต้องจ่ายค่าเทอม และเรื่องกินอยู่ อีก  และที่สำคัญเงินที่พี่เค้าให้ผมยืมก็ต้องรีบจ่ายคืนพี่เค้าด้วย  กลายเป็นปัญหาของผมที่ต้องรับผิดชอบมากยิ่งขึ้น เลยทำให้ไม่อยากรบกวนใครอีก  คิดหนักอยู่หลายวัน  หรือ ฟ้าเขาขีดให้ต้องเดินทางเส้นนี้จริงๆ
                       
                 สุดท้ายผมเลย ผมเองกลายเป็นคน เดินไปหาพี่วี และ บอกกับแก เลยว่า ........ถ้าผมตัดสินใจ รับทำงานนี้ ผมต้องทำยังไงบ้าง?

 ขอบคุณมากกับการติดตามนะครับ

มีเวลา....แล้วจะมาต่อ นะครับ  ลูกค้าคนแรกที่ผมรับงาน ผมยังจำความรู้สึกนั้นได้ดี และยังจำเขาได้เสมอ จนทุกวันนี้ครับ


 {flower4}



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 11, 2017, 09:51:07 AM โดย พงษ์ »
อย่าหยุดสงสัย........?
จะได้อยากสู้เพื่อค้นหา

ออฟไลน์ pjy

  • FOUNDER MEMBER
  • *
  • กระทู้: 1,326
  • Total likes: 10
  • คะแนนพิเศษ: +2/-0
Re: บันทึก..."ลับ"(กว่าจะมาเป็น พงษ์)
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 11, 2013, 04:59:12 PM »

ขออนุญาติแทรกเรื่องของพี่pjy นะครับ พอดีข้อความมีจำกัดในแต่ละบรรทัด




บันทึกลับตอนที่ 3





       สวัสดีครับสมาชิกทุกท่าน ขอบคุณเป็นอย่างมากกับการติดตาม ในอีกมุมของผมนะครับ
จากที่เล่าถึงที่ไปที่มา ว่าสิ่งต่างๆ ที่ปูเส้นทางให้ชีวิตของผมต้องมาเจอกับ เรื่องต่างๆ เจอคนต่างๆ ที่เราไม่เคยคิดมาก่อน....ว่าจะได้มาเจอ ไม่รู้มีเหตุอันใดถึงได้มารู้จัก ถึงไม่มีเรื่องราวเกิดขึ้น  จนดึงชีวิตของผู้ชายบ้านนอกๆธรรมดาคนหนึ่ง ..เดินใกล้เข้ามากับทางเส้นนี้ แบบไม่เคยรู้เรื่องเลยว่าจะไปเจอกับอะไรบ้าง  ทุกวันทุกเวลามันมีอะไรมากมายที่เกิดขึ้นไม่แบบเราคาดเดาอะไรไม่ได้ เอาซะเลย..... สำหรับผมก็ต้องกลัวไปต่างๆนาๆ เป็นธรรมดาอยู่แล้วกับการที่ต้องตัดสินใจก้าวเข้าสู่งานที่ไม่เคยเรียนรู้มาก่อน  ไม่มีบททดสอบ ไม่มีการทดลอง         แต่ก็อย่างที่บอกล่ะครับ คนเราส่วนใหญ่ก็จะมองถึงปัญหาก่อน ว่าคนจะมองยังไงว่าหากรู้ผมทำงานแบบนี้ ?ที่แคร์ที่สุดคือพ่อแม่ครอบครัว ที่บ้านคนที่ผมรัก เพื่อนสนิทต่างๆ หรือ เพื่อนร่วมงาน จะคิดยังไงแล้วความปลอดภัย เสี่ยงขนาดไหน?  ผมจะเดินตามถนนมันจะเหมือนเดิมไหม..? มันจะทำให้ความคิด หรือ ชีวิตของผมเปลี่ยนไปรึปล่า...?

  ผมนั่งคิดทบทวนก่อนตัดสินใจทำงานนี้อยู่หลายวัน  แต่พอลองมามองถึงสิ่งดีๆ ที่มันอาจจะเกิดขึ้นคือ รายได้ที่จะพอช่วยลดปัญหา มันก็จำเป็นต้องเสี่ยงดวงละครับ อย่างน้อยงานนี้ผมก็ได้ช่วยครอบครัวได้อีกทาง ช่วยเหลือชีวิตผมบ้างในยามที่ลำบาก  ถ้ามองในเรื่องของงานนะครับ แต่ถ้ามองถึงเรื่องของความรู้สึกคงไม่ต่างกันกับหลายๆคนมองเลย..........

             แต่ความรู้สึกหรือ ศักดิ์ศรีที่ทุกคนเรามองกันมันมีค่าน้อยกว่าความจำเป็นที่มันเป็นปัญหาที่เราจะต้องเจอ          เราไม่ได้เกิดมาพร้อมทุกอย่าง จะไปเปรียบเทียบกับเพื่อนที่เขามีฐานะร่ำรวย ได้อยู่กับครอบครัวได้ไปเที่ยวที่ต่างๆมากมาย  ได้ทำงานมั่นคงในบริษัทมีชื่อ ผมไม่เคยไปโทษโชคชะตาว่าทำไม่คนเรามันมีไม่เท่า กัน  แต่ ปัญหาของคนเรามันมีมากน้อยต่างกัน  ก็ต้องแก้ปัญหาของตัวเอง ให้ได้ก่อน  เพราะปัญาหาของเราเราต้องช่วยตัวเอง เลยตัดความคิดตรงนั้นออกไปบ้าง เพราะหากเราจะเอาความขยัน เอาความสู้ทนที่เราเพียรพยายามทำมา ผมว่าทุกคนก็มีกัน ไปบอกกับใครต่อใครว่าผมขอข้าว ขอเงิน ขอลดปัญหาต่างๆ เพื่อแลกกับความขยัน หรือ ศักดิ์ศรีความเป็นคน จะมีใครล่ะ ครับ ให้เรามา.....ฟรีๆ  แทบไม่มีเลย

คิดถึง ….ช่วงที่ผมอยู่กับเพื่อนตอนนั้นลำบากสุดๆ เหมือนกัน ตอนที่กำลังหางานกัน..... วันแล้ววันเล่า โดนหลอกกันมา นั่งให้กำลังใจจนแทบท้อ มองหารอยยิ้มความสุขกันไม่มีเหลือบนใบหน้าเลยครับ  เพราะห้องเช่าก็พอแค่ได้นอนกัน ไม่มีแม้แต่ตู้เย็น ไม่มีโทรทัศน์ มีพัดลมตั้งพื้นเครื่องเดียวในห้องมืดๆ แคบๆห้องน้ำรวม แต่ตอนนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดคือที่มีที่ซุกหัวนอน มีอยู่บางช่วง  เงินไม่มีแม้แต่ข้าวที่จะซื้อกันกิน เพราะต้องรอตอนค่ำเพื่อจะมาเสริพที่ร้านอาหาร อาศัยรอกินที่ร้านเราต้องคอยเตือนกัน  กินน้ำไปก่อนถ้าหิว”นอนเอาแรงไว้  อย่าลุก อย่าเดินให้มาก เดี๋ยวร่างกายจะทำงาน  เดี๋ยวจะหิว”

นอนคุยกันถึงบ้าน ถึงท้องทุ่งนา ที่มีเสียงนก สายน้ำ แถวบ้านตอนออกหาปูหาปลา ร้องเพลงนั่งเล่นกีต้ามีความสุข ด้วยกัน พูดไปพลางน้ำตามันไหลอยู่เรื่อยๆ ..............แถมเครียดเรื่อง เงินค่าเช่าไม่พอจ่าย ขอเขาผลัดไปอีกเดือน เจ้าของห้องเขาก็ไม่ยอม” ไม่มีจ่ายก็ขนของออกไป” แม้จะอ้อนวอน ขอเลื่อนเวลา อีกแค่ วันสองวัน ก็ยังไม่ได้เลยครับ สำหรับคนบ้านนอกอย่างพวกเรา ใครเขาจะมาแคร์ แม้เราจะประกาศให้ใครต่อใครเขารู้ว่า เราเป็นคนดีนะไม่เคยจี้ปล้น ไม่เคยหลอกใคร เป็นคนขยันขนาดไหน แค่ไม่มีเงิน  มันไม่มีประโยชน์หรอกครับ นี่หละครับ สิ่งที่จำเป็นที่ต้องมีเงิน ถึงจะอยู่รอดในเมืองนี้ได้ มันเป็นเรื่องปกติ ที่เรารู้ๆ กัน

      ตอนที่เราทุกข์ ลำบากเจอปัญหา คนที่เดินอยู่มากมายรอบตัวเราเขาคงไม่มีใครมาช่วยอะไรได้ เพราะทุกคนก็ต่างมีปัญหา เหมือนเรา  เราก็ไม่เคยเดินเข้าไปถาม หรือ เขาก็ไม่ได้มาบอกอะไรเรา เราเองต่างหาก ต้องช่วยตัวเอง ต้องรับผิดชอบชีวิตของใครของมัน นี่เป็นเรื่องที่ทุกๆคนรู้กันอยู่แล้วในสังคมใหญ่สังคมที่มีแต่การแข่งขัน  และ ทุกอย่างต้องแลกมาด้วยค่าใช้จ่ายตั้งแต่ ตื่นนอน จนหลับตาลง

          ปัญหามากมายมันอยู่ในหัวต้องมองข้ามความรู้สึก ของจิตใจออกไปให้ได้ ผมถึงกล้าที่จะเดิน เข้ามาในเส้นทางนี้ แบบสบายใจ เพราะไม่มีใครมาบังคับให้เราต้องทำ ผมทำเพราะเต็มใจจริงๆ และจำเป็นจริงๆ

             พี่วี..อธิบายรูปแบบงานต่างๆ นาๆว่างานมีแบบไหน ยังไง บ้างแบบคร่าวๆ ให้ผมรู้เบื้องต้น เพราะแต่ละงานจะแตกต่างกันไปกับลูกค้าแต่ละคน และรายได้ของทั้งผมและพี่วีกับแต่ละงาน ผมขอไม่พูดถึงรูปแบบละเอียดนักนะครับ แต่สิ่งที่ผมเริ่มทำตอนนั้นมันมีรูปแบบแตกต่างกัน กับทุกวันนี้มาก  พี่วีเข้าใจว่าผมเป็นผู้ชาย เลยเลือกลูกค้าที่เป็นผู้หญิงก่อน ในช่วงแรกๆ ลูกค้าคนแรกเป็นเพื่อนสนิทของพี่วี และ พี่วีพาผมไปส่งและนั่งทานข้าวเย็นเป็นเพื่อน ก่อนแนะนำตัวผมแล้วก็แยก กลับก่อน ให้ผมอยู่กับพี่ลูกค้าเอง ครั้งแรกนั้นผม ตื่นเต้นมาก ทั้งตื่นเต้น ทั้งกลัว กลัวจะทำให้งานพี่เขาพัง กลัวทำอะไรผิดๆ ถูกๆ กลัวไปต่างๆนาๆ และอายสุดๆ เลยครับ พูดผิดๆถูกๆ เกร็งไปหมด       

    แต่พี่ลูกค้าคนนี้ เขาน่ารักมากๆ ครับ ให้เกียติและรู้ว่าผม กลัว อาย และตื่นเต้น ทำทุกอย่างให้ผม คลายอาการตื่นเต้นนี้   จนผมเริ่มคลายลงบ้างหลังจากทานข้าวเย็นเสร็จ พี่เขาก็พาผมไปที่ห้อง คุยกันเรื่องต่างๆ ผมก็เล่าความเป็นมาว่ามาทำงานนี้ได้ยังไง? มารู้จักกับพี่วีได้ไง? คืนนั้นพี่เขาให้ผมนอนค้างกับพี่เค้าทั้งคืนเลยครับ... ตอนเช้าก็อุตส่าห์ขับรถมาส่งผมที่ห้องด้วย แถมนัดเจอผมอีกครั้งอีกในวันต่อมา     แต่รู้ไหมครับ…..? “ผมกับพี่เขาไม่ได้มีอะไรกันเลยครับ.”

...... แต่มันทำให้ผมรู้สึกถึงความอบอุ่นที่มีคนเข้าใจเราเข้าใจความจำเป็นของเรา  พี่เขาก็บอกว่า  ผมมีอะไรน่าสนใจและชอบในความจริงใจ และตั้งใจจริง  แล้วคืนต่อมาเราก็นัดกันอีก ผมรีบโทรบอกพี่วี ว่าพี่ผู้หญิงที่เจอเมื่อวาน นัดผมอีกรอบ.....พี่วี ”ตกใจ.” เลยครับ 
เพราะทั้งที่ผมไปนอนค้างกับเค้า และ เรื่องนัดต่อกัน  พี่ผู้หญิงคนนี้ ปกติ ไม่เคยมีใครค้างกับเค้าเลย  และ เค้าก็ไม่เคยเรียกเด็กซ้ำ  พี่วีเลย ....งง ว่าผมไปทำ อีท่าใหน ให้

   ........  ครั้งแรกผมได้ค่าตอบแทนมา ผมดีใจมากๆ เลยครับ  ไม่เคยได้รับเงินอะไรเยอะๆ  ขนาดนี้มาก่อนกับการทำงานครั้งแรก และ ครั้งเดียว แต่ก็กลัวๆ ในครั้งที่2 เพราะมันคงไม่ง่ายเหมือนครั้งแรกแน่ๆ  คืนต่อมาพี่เขามารับผมที่ทำงานเลยครับ ครั้งนี้ผมไม่ตื่นเต้น เหมือนครั้งแรกแล้วครับ  แต่ก็เป็นที่น่าพอใจครับ อาจเพราะพี่เค้ารู้ว่าผม ไม่เคยทำงานแบบนี้มาก่อน และ ต่างให้เกรียติซึ่งกันและกันครับ  พี่เขาขอพาผมไปเที่ยวต่างจังหวัด2 คืน ขอเหมาผมกับพี่วี  ผมก็ไม่กล้าปฎิเสธ ตอนที่ผมไปเที่ยว ผมสบายใจมากๆ และมีความสุขมากๆเช่นกัน  ได้เห็นอะไรที่ไม่เคยเห็น ได้เจออะไรที่ไม่เคยเจอ ได้ทำอะไรที่ไม่เคยทำมากมาย ผมทำบ้านนอกๆ ให้พี่เขาหัวเราะ แต่ผมก็เห็นพี่เขามีความสุข มันเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำสำหรับ คนแรก และงานแรกของผม 

 ต่อจากนั้น พี่เขาก็ต้องไปอยู่ต่างประเทศ หลังจากกลับจากไปเที่ยวได้ไม่นาน   ตอนนี้ผมรับเป็นทั้งเทร็นเนอร์ และ รับงานพิเศษจากพี่วี หลังตกลงเวลากันลงตัวแต่ละงาน ไม่ให้กระทบงานประจำ
 
            งานที่สอง ผมเป็นผู้หญิง ที่ต้องไปเป็นเพื่อนเขาในงานวันเกิดเพื่อน....ก่อนไปเราก็ต้องตกลงการทำตัว เป็นยังไง รู้จักกันยังไง ผมทำงานอะไร? งาน เป็นไปด้วยดีครับ....งานไม่มีปัญหา หลังจากนั้นผมก็ เริ่มเรียนรู้ การทำงาน และ ทุกงานจะต่างกันบ้าง เช่นไปกินข้าว ดูหนังบ้าง ฟังเพลงบ้าง ตามแต่ลูกค้าคนไหนจะชอบแบบใหนครับ ไม่มีการนวดเป็นเรื่องราวนะครับ
 
              จนงานที่9  เป็นงานลูกค้าผู้ชาย คนแรก  เป็นเพื่อนสนิทของพี่วี  ครั้งแรกผมขอปฎิเสธไปก่อนแล้ว....ยังทำใจไม่ได้ เพราะกลัวทำให้งานพี่เขาเสีย แต่พี่วีบอกว่า ต่อไปผมต้องทำงานได้ทั้งผู้หญิง และผู้ชาย แต่ผู้ชายจะเยอะ ผู้หญิงจะน้อยแล้ว เพราะส่วนใหญ่ลูกค้าหลักจะเป็นผู้ชายซะ 90 %  ลูกค้าผู้หญิงมีไม่มากแค่ 10 % เอง และต่อไปผมต้องทำงานกับลูกค้าผู้ชายแล้วจะเลือกไม่ได้แล้ว .........
 
ขอบคุณกับการติดตามนะครับ มีเวลาจะมาเล่าต่อนะครับ

หวังว่า มุมอีกมุมของผม จะช่วยสร้างความสุข สร้างความไกล้ชิด ทั้งประสบการณ์ชีวิต และสิ่งดีๆ สานต่อเป็นสายสัมพันธ์ในอีกรูปแบบหนึ่งนะครับ

 {flower4}


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 07, 2016, 03:20:42 PM โดย พงษ์ »

ออฟไลน์ princekelly

  • FOUNDER MEMBER
  • *
  • กระทู้: 2,062
  • Total likes: 10
  • คะแนนพิเศษ: +4/-0
  • めっちゃやられたい😍
Re: บันทึก..."ลับ"(กว่าจะมาเป็น พงษ์)
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: พฤศจิกายน 11, 2013, 05:19:00 PM »
ผมอยากเจอน้องพงษ์แล้วกอดให้แน่นๆ
ไม่ได้อยากกอดเพราะเสน่หา หรือความใคร่
แต่อยากกอดให้กำลังใจ ถึงแม้ไม่รู้จักกันเป็นการส่วนตัว
วันนี้เหมือนทุกสิ่งจะเข้าที่เข้าทางแล้ว แต่วันหน้ายังมีอะไรรอเราอยู่บ้างก็ไม่รู้
เป็นกำลังใจให้น้องพงษ์นะครับ  :-*

อย่าอายในอดีตของเรา มันอาจจะเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่นก็ได้ครับ


ลูบไล้ ซุกไซ้ ทำให้สยิว ❣ Make me moan ❣ キモチよくしてほしい。

ออฟไลน์ ton7up

  • FOUNDER MEMBER
  • *
  • กระทู้: 1,068
  • Total likes: 2
  • คะแนนพิเศษ: +1/-0
Re: บันทึก..."ลับ"(กว่าจะมาเป็น...ผม)(พงษ์)
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: พฤศจิกายน 11, 2013, 06:15:18 PM »
ให้กำลังใจครับ

ออฟไลน์ kittisaks

  • PREMIUM MEMBER
  • *
  • กระทู้: 239
  • Total likes: 14
  • คะแนนพิเศษ: +5/-0
  • Ruknakrub
Re: บันทึก..."ลับ"(กว่าจะมาเป็น...ผม)(พงษ์)
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: พฤศจิกายน 11, 2013, 07:00:55 PM »
เป็นกำลังใจให้นะครับ อยากอ่านเรื่องราวต่างๆ ต่ออีก FC น้องพงษ์

ออฟไลน์ siril

  • PREVILEGE MEMBER
  • *
  • กระทู้: 24,219
  • Total likes: 3
  • คะแนนพิเศษ: +26/-2
Re: บันทึก..."ลับ"(กว่าจะมาเป็น...ผม)(พงษ์)
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: พฤศจิกายน 11, 2013, 09:18:57 PM »
เศร้าจัง รอตอนต่อไปอยู่นะ
อยากทักทายเป็นภาษาต่างด้าว
อยากเว่าภาษาลาวว่าฮักเหลือหลาย
อยากบอกว่า ไอชิเตะ อิรุโยะ ไปจนตาย
แต่ว่าอายเกินไป เลยเก็บไว้คนเดียว

ออฟไลน์ katoon

  • FOUNDER MEMBER
  • *
  • กระทู้: 2,944
  • Total likes: 10
  • คะแนนพิเศษ: +20/-1
Re: บันทึก..."ลับ"(กว่าจะมาเป็น...ผม)(พงษ์)
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: พฤศจิกายน 11, 2013, 09:39:00 PM »
นี่แหละชีวิต มีขึ้นมีลงเป้นธรรมดา

ออฟไลน์ tear

  • PREVILEGE MEMBER
  • *
  • กระทู้: 13,083
  • Total likes: 32
  • คะแนนพิเศษ: +86/-4
Re: บันทึก..."ลับ"(กว่าจะมาเป็น...ผม)(พงษ์)
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: พฤศจิกายน 11, 2013, 11:13:21 PM »
สิ่งต่างๆ ที่ได้มามันไม่ง่ายเลยจริงๆ ครับ ชีวิตคนเราก็ต้องประสบพบเจอแบบนี้ทุกคนเลยก็ว่าได้
ชอบจังครับ อ่านแล้วเศร้าแต่ก็ทำให้รู้ว่าในความเศร้านั้น กำลังใจ การที่เราไม่ท้อ ไม่เกี่ยงงาน
ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่ทำให้เราประสบความสำเร็จ

เข้ามารอตอนต่อไปเหมือนกับคนอื่นครับ และเป็นกำลังใจให้สู้สู้ต่อไปครับ

ออฟไลน์ Mike01

  • PREVILEGE MEMBER
  • *
  • กระทู้: 6,732
  • Total likes: 23
  • คะแนนพิเศษ: +8/-1
Re: บันทึก..."ลับ"(กว่าจะมาเป็น...ผม)(พงษ์)
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: พฤศจิกายน 12, 2013, 01:23:54 AM »
พี่ยังจำได้ครับ  ตอนที่นวดกับพงษ์ราชเทวี น้องพงษ์เล่าให้ฟังคล้ายๆกับที่เขียนข้างบน อ่านตอนต่อไปนะครับ และเป็นกำลังใจให้เสมอครับ

ออฟไลน์ gokoh

  • PLATINUM MEMBER
  • *
  • กระทู้: 821
  • Total likes: 1
  • คะแนนพิเศษ: +0/-0
Re: บันทึก..."ลับ"(กว่าจะมาเป็น...ผม)(พงษ์)
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: พฤศจิกายน 12, 2013, 07:20:44 AM »
สู้ สู้ ครับ

ออฟไลน์ tear

  • PREVILEGE MEMBER
  • *
  • กระทู้: 13,083
  • Total likes: 32
  • คะแนนพิเศษ: +86/-4
Re: บันทึก..."ลับ"(กว่าจะมาเป็น...ผม)(พงษ์)
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: พฤศจิกายน 12, 2013, 07:23:47 AM »
พี่ยังจำได้ครับ  ตอนที่นวดกับพงษ์ราชเทวี น้องพงษ์เล่าให้ฟังคล้ายๆกับที่เขียนข้างบน อ่านตอนต่อไปนะครับ และเป็นกำลังใจให้เสมอครับ

หลายๆ คนเป็นสมาชิกที่เหนียวแน่นจริงๆ ครับ
อิจฉาจังได้ใช้บริการตั้งแต่แรกๆ เลยอะครับ...

ออฟไลน์ RVBOYZ

  • I'm Your man
  • EXTRA PREMIUM MEMBER
  • *
  • กระทู้: 669
  • Total likes: 13
  • คะแนนพิเศษ: +7/-0
  • แตกต่างเหมือนกัน
Re: บันทึก..."ลับ"(กว่าจะมาเป็น...ผม)(พงษ์)
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: พฤศจิกายน 12, 2013, 07:40:11 AM »
สู้ๆ กันต่อไปครับ  ;/Crazy6

ออฟไลน์ tear

  • PREVILEGE MEMBER
  • *
  • กระทู้: 13,083
  • Total likes: 32
  • คะแนนพิเศษ: +86/-4
Re: บันทึก..."ลับ"(กว่าจะมาเป็น...ผม)(พงษ์)
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: พฤศจิกายน 12, 2013, 07:51:16 AM »
สู้ๆ กันต่อไปครับ  ;/Crazy6

ครับผม สู้ๆ กันต่อไป

ออฟไลน์ siril

  • PREVILEGE MEMBER
  • *
  • กระทู้: 24,219
  • Total likes: 3
  • คะแนนพิเศษ: +26/-2
Re: บันทึก..."ลับ"(กว่าจะมาเป็น...ผม)(พงษ์)
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: พฤศจิกายน 12, 2013, 08:26:01 AM »
ไม่เห็นรู้เรื่องมาก่อนเลย พงษ์ใจร้ายกับเราอีกแล้ว
อยากทักทายเป็นภาษาต่างด้าว
อยากเว่าภาษาลาวว่าฮักเหลือหลาย
อยากบอกว่า ไอชิเตะ อิรุโยะ ไปจนตาย
แต่ว่าอายเกินไป เลยเก็บไว้คนเดียว

ออฟไลน์ Mike01

  • PREVILEGE MEMBER
  • *
  • กระทู้: 6,732
  • Total likes: 23
  • คะแนนพิเศษ: +8/-1
Re: บันทึก..."ลับ"(กว่าจะมาเป็น...ผม)(พงษ์)
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: พฤศจิกายน 12, 2013, 02:26:12 PM »
พี่ยังจำได้ครับ  ตอนที่นวดกับพงษ์ราชเทวี น้องพงษ์เล่าให้ฟังคล้ายๆกับที่เขียนข้างบน อ่านตอนต่อไปนะครับ และเป็นกำลังใจให้เสมอครับ

หลายๆ คนเป็นสมาชิกที่เหนียวแน่นจริงๆ ครับ
อิจฉาจังได้ใช้บริการตั้งแต่แรกๆ เลยอะครับ...
นวดกับน้องพงษ์เมื่อ4-5ปีที่ผ่านมาไม่กี่ครั้งเองครับ  และย้ายไปต่างจังหวัด พอย้ายกลับมา น้องพงษ์มีลูกค้ายาวเหยียดเลย55555ตอนนี้อิจฉาคนที่ได้คิวครับคุณเทีย ;/Crazy10แต่ก็พยายามโทรต่อไปครับ

ออฟไลน์ RVBOYZ

  • I'm Your man
  • EXTRA PREMIUM MEMBER
  • *
  • กระทู้: 669
  • Total likes: 13
  • คะแนนพิเศษ: +7/-0
  • แตกต่างเหมือนกัน
Re: บันทึก..."ลับ"(กว่าจะมาเป็น...ผม)(พงษ์)
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: พฤศจิกายน 12, 2013, 03:10:19 PM »
ไม่เห็นรู้เรื่องมาก่อนเลย พงษ์ใจร้ายกับเราอีกแล้ว

พี่ริ้วอ่ะ
เรื่องเก่าๆ ทั้งนั้น
แค่พงษ์มาขยายความเพิ่มเอง
พี่ริ้วจำไม่ได้มากกว่า  ;/Crazy5

ออฟไลน์ kittisaks

  • PREMIUM MEMBER
  • *
  • กระทู้: 239
  • Total likes: 14
  • คะแนนพิเศษ: +5/-0
  • Ruknakrub
Re: บันทึก..."ลับ"(กว่าจะมาเป็น...ผม)(พงษ์)
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: พฤศจิกายน 12, 2013, 05:07:00 PM »
คิวแน่น แปลว่าบริการทุกระดับประทับใจคับ FC ตัวจริง รอๆ

ออฟไลน์ tear

  • PREVILEGE MEMBER
  • *
  • กระทู้: 13,083
  • Total likes: 32
  • คะแนนพิเศษ: +86/-4
Re: บันทึก..."ลับ"(กว่าจะมาเป็น...ผม)(พงษ์)
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: พฤศจิกายน 12, 2013, 06:11:25 PM »
พี่ยังจำได้ครับ  ตอนที่นวดกับพงษ์ราชเทวี น้องพงษ์เล่าให้ฟังคล้ายๆกับที่เขียนข้างบน อ่านตอนต่อไปนะครับ และเป็นกำลังใจให้เสมอครับ

หลายๆ คนเป็นสมาชิกที่เหนียวแน่นจริงๆ ครับ
อิจฉาจังได้ใช้บริการตั้งแต่แรกๆ เลยอะครับ...
นวดกับน้องพงษ์เมื่อ4-5ปีที่ผ่านมาไม่กี่ครั้งเองครับ  และย้ายไปต่างจังหวัด พอย้ายกลับมา น้องพงษ์มีลูกค้ายาวเหยียดเลย55555ตอนนี้อิจฉาคนที่ได้คิวครับคุณเทีย ;/Crazy10แต่ก็พยายามโทรต่อไปครับ

อ๋อครับ ใช่เลยตอนนี้คิวยาวมากๆ ครับคุณ Mike สู้สู้ครับโทรต่อไปครับผม

ออฟไลน์ tear

  • PREVILEGE MEMBER
  • *
  • กระทู้: 13,083
  • Total likes: 32
  • คะแนนพิเศษ: +86/-4
Re: บันทึก..."ลับ"(กว่าจะมาเป็น...ผม)(พงษ์)
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: พฤศจิกายน 12, 2013, 06:12:34 PM »
ไม่เห็นรู้เรื่องมาก่อนเลย พงษ์ใจร้ายกับเราอีกแล้ว

คุณริ้วน่าจะรู้เรื่องมากกว่าท่านอื่นๆ นะครับ ^^

ออฟไลน์ GOLF

  • PREMIUM MEMBER
  • *
  • กระทู้: 117
  • Total likes: 1
  • คะแนนพิเศษ: +0/-0
Re: บันทึก..."ลับ"(กว่าจะมาเป็น...ผม)(พงษ์)
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: พฤศจิกายน 12, 2013, 06:50:39 PM »
เพิ่งรู้ เหมือนกันครับ.. เป็นกำลังมจคับ
วัตถุอันตราย....... แข็งทุกทีเมื่ออยู่ใกล้พงษ์

Tamasat

  • บุคคลทั่วไป
Re: บันทึก..."ลับ"(กว่าจะมาเป็น...ผม)(พงษ์)
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: พฤศจิกายน 12, 2013, 07:00:45 PM »
ผมเองคิดว่า น้องพงษ์คงไม่ได้อยากมานั่งเล่า เรื่องราวชีวิต ของตัวเองให้กับคนที่มาใช้บริการแนวนี้ฟังหรอกนะครับ
เพราะมันพลอยจะทำให้บรรยากาศทั้งตัวน้องเอง. และลูกค้า เครียดๆกับ บางเรื่องได้ เหมือนเราไปกินข้าวนั่นหล่ะ ครับเจ้าของร้านคงไม่ได้มานั่งเล่าประวัติ ของเขาให้ลูกค้าฟังเว้นแต่จะ จงใจไปถามแบบเอาจริงเอาจัง คงอยากให้ลูกค้ากินอาหารแบบอร่อยๆมากกว่า.
คงเหมือนน้องพงษ์ล่ะครับ คงไม่อยากเล่าเรื่องแบบนี้ ตอนนวด หรอก.
ผมนวดกับน้องมาก็หลายครั้งถามแต่เรื่องลูกค้าเป็นยังไง และผมก็ไม่เคยถามว่าครอบครัวมาจากไหนยังไง พงษ์เองก็ไม่ค่อยเล่า
แต่เป็นกำลังใจให้น้องครับ เพราะน้องสู้และขยันจริงๆ ไม่เอาเปรียบลูกค้า และซื่อสัตย์กับงาน

ออนไลน์ swillball

  • PLATINUM MEMBER
  • *
  • กระทู้: 875
  • Total likes: 3
  • คะแนนพิเศษ: +1/-0
Re: บันทึก..."ลับ"(กว่าจะมาเป็น...ผม)(พงษ์)
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: พฤศจิกายน 12, 2013, 07:53:10 PM »
ภูมิใจเเทนครับ สู้ๆ เป็นกำลังใจให้ครับ

ออฟไลน์ ton7up

  • FOUNDER MEMBER
  • *
  • กระทู้: 1,068
  • Total likes: 2
  • คะแนนพิเศษ: +1/-0
Re: บันทึก..."ลับ"(กว่าจะมาเป็น...ผม)(พงษ์)
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: พฤศจิกายน 12, 2013, 08:02:23 PM »
รออ่านต่อครับ เป็นเรื่องราวที่น่าสนใจ

ออฟไลน์ gokoh

  • PLATINUM MEMBER
  • *
  • กระทู้: 821
  • Total likes: 1
  • คะแนนพิเศษ: +0/-0
Re: บันทึก..."ลับ"(กว่าจะมาเป็น...ผม)(พงษ์)
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: พฤศจิกายน 12, 2013, 08:15:43 PM »
มารออานตอนตอไปครับ  :)

ออฟไลน์ วัต Wut G

  • FOUNDER MEMBER
  • *
  • กระทู้: 1,259
  • Total likes: 6
  • คะแนนพิเศษ: +11/-0
Re: บันทึก..."ลับ"(กว่าจะมาเป็น...ผม)(พงษ์)
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: พฤศจิกายน 12, 2013, 09:07:21 PM »

เป็นกำลังใจให้ครับ
ถึงแม้บางครั้งชีวิตจะโหดร้าย แต่ในที่สุดย่อมมีฟ้าหลังฝน


 :-* :-* :-*

 

* Calendar

พฤศจิกายน 2024
อา. จ. อ. พ. พฤ. ศ. ส.
1 2
3 4 5 6 7 8 [9]
10 11 12 13 14 15 16
17 18 19 20 21 22 23
24 25 26 27 28 29 30