หยก คือ อัญมณีประเภทหินซึ่งมีมูลค่าสูงมาก ในภาษาสเปนเรียกหยกว่า ”JADE” แปลว่า เจ้าแห่งหินทั้งปวง ส่วนชาวจีนเรียกหยกว่า “ ยี่ “ หยกเป็นหินที่ได้รับความนิยมอย่างมากในชาวจีนเพราะชาวจีนเชื่อว่าหยกสามารถรักษาอาการป่วยและนำพาความร่ำรวยมาให้ผู้ครอบครอง โดยหยกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่คือเจไดต์และเนฟไฟร์ต เนื่องจากหยกเป็นหินที่มีมูลค่าสูงถึงหลักแสนหลักล้าน ฉะนั้นเมื่อเลือกซื้อควรใช้วิธีทดสอบหินหยกแท้เพื่อให้แน่ใจว่าไม่โดนหลอก…
วิธีทดสอบหยกแท้อย่างง่ายๆ
1. ขูดกระจก นำหยกไปทดลองขูดกระจก ถ้าเป็นหยกแท้บนกระจกที่ใช้หยกขูดลงไปนั้นจะเป็นรอย แต่ถ้ากระจกไม่เป็นรอยแสดงว่าหยกนั่นเป็นของปลอม
2. เคาะหยก นำหยก 2 ก้อนมาเคาะกันดู หากเป็นหยกแท้เสียงที่กระทบกันจากการเคาะจะก้องกังวานเป็นเสียงใสๆส่วนหยกปลอมจะไม่เกิดเสียงใสๆ คำเตือน เนื่องจากหยกแท้เป็นของแข็งถ้ากระทบแรงๆอาจเกิดการแตกหักได้ ดังนั้นควรทำการทดสอบด้วยความระมัดระวัง
3. ทดสอบความเย็น หยกของแท้จะมีความเย็นจากพลังภายในอยู่ให้ทดสอบโดยการจับหยกไว้ในมือสักครู่ความเย็นจะแผ่ซ่านไปทั้งมือแล้วเปลี่ยนมือถ้ายังเย็นอยู่แปลว่าเป็นหยกของแท้
4. ทดสอบการมองทะลุ นำหยกไปส่องไฟถ้าเป็นหยกแท้เนื้อหยก จะใสจนสามารถมองมะลุได้ ส่วนหยกปลอมเนื้อจะทึบ สีขุ่นและไม่สามารถมองผ่านทะลุได้
วิธีทดสอบหยกแท้เหล่านี้เป็นวิธีที่ประชาชนทั่วไปนิยมใช้ในการดูหยก ว่าเป็นของแท้หรือไม่ และเมื่อเสร็จจากการทดสอบแล้วก็ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นหยกแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะฉะนั้นในการเลือกซื้อหยก ควรเลือกซื้อจากร้านที่มีความน่าเชื่อถือและสามารถตรวจได้แน่ชัดว่าเป็นหยกของแท้ เพื่อไม่เป็นการเสียเงินโดยสูญเปล่า
🔵16.00Cleaning(งดให้บริการ)