มะเร็งคร่าชีวิต "เดวิด โบวี" นักร้องตำนานชาวอังกฤษเจ้าของฉายา "กิ้งก่าเปลี่ยนสีแห่งวงการร็อก" ซึ่งเพิ่งฉลองวันเกิดครบ 69 ปี พร้อมออกอัลบั้มชุดล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา บุคคลหลากหลายวงการทั้งผู้นำประเทศ นักร้อง นักแสดง และนักบินอวกาศร่วมแสดงความอาลัยตัวแทนของเขาออกแถลงการณ์แจ้งข่าวการจากไปของนักร้องรุ่นลายครามรายนี้เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาตามเวลาอังกฤษ ว่า เดวิด โบวี เสียชีวิตอย่างสงบท่ามกลางสมาชิกครอบครัวของเขาเมื่อวันอาทิตย์ หลังจากที่เขาต่อสู้กับโรงมะเร็งอย่างกล้าหาญมานาน 18 เดือน ขณะที่ดันแคน โจนส์ ลูกชายของเขาที่เป็นผู้กำกับภาพยนตร์ ยืนยันข่าวการจากไปของพ่อผ่านทางทวิตเตอร์ คำแถลงยังไม่แจ้งชัดเจนว่าเขาเสียชีวิตที่บ้านในนครนิวยอร์กที่เขาพำนักมาช้านาน หรือที่อังกฤษบ้านเกิดของเขา
ข่าวการจากไปอย่างปุบปับของโบวีสร้างความตกตะลึงไปทั้งวงการบันเทิงและแวดวงต่างๆ ทั่วโลก เขาเพิ่งฉลองวันเกิดอายุครบ 69 ปี เมื่อวันศุกร์ที่ 8 ม.ค. พร้อมกับเปิดตัวอัลบั้ม "Blackstar" สตูดิโออัลบั้มชุดที่ 25 ของเขา ซึ่งเปลี่ยนแนวมาสไตล์นิวแจ๊สและได้รับเสียงชื่นชมจากนักวิจารณ์
โบวีเกิดที่เมืองบริกซ์ตัน ทางใต้ของกรุงลอนดอน โดยมีชื่อในใบเกิดว่า เดวิด โรเบิร์ต โจนส์ เมื่ออายุ 13 เขาเริ่มเล่นแซ็กโซโฟน หลังจากเล่นดนตรีกับหลายวง เขาเริ่มสร้างชื่อของตนเองด้วยอัลบั้ม "Space Oddity" ในปี 2512 เพลงที่เป็นชื่ออัลบั้มเป็นผลงานขึ้นอันดับหนึ่งในอังกฤษเพลงแรกของเขา
โบวีเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์และสไตล์เพลงของเขาบ่อยครั้ง มีตั้งแต่แกลมร็อก, นิวโรแมนติก, เคราต์ร็อก, เพลงแดนซ์ ไปจนถึงอัลเทอร์เนทีฟร็อก, จังเกิล, โซล และฮาร์ดร็อก ในส่วนของภาพลักษณ์ เขาเริ่มเปลี่ยนชื่อตนเองจากเดวิด โจนส์ เป็นเดวิด โบวี เมื่อปี 2509 เพื่อเลี่ยงความสับสนกับชื่อเดวี โจนส์ นักร้องนำของวงเดอะมังคีส์ ที่โด่งดังในยุคนั้น
เขาเปลี่ยนภาพลักษณ์เป็นซิกกี้ สตาร์ดัสต์ ร็อกสตาร์ลักเพศจากวง "สไปเดอร์ฟรอมมาร์ส" ที่กลายเป็นเอกลักษณ์ความเพี้ยนและเป็นไอคอนของศิลปินรุ่นหลัง มีเพลงฮิต เช่น "Starman" และ "Suffragette City" ตามด้วยอัลบั้มร็อก "Aladdin Sane", อโพคาลิปติก "Diamond Dogs" และอัลบั้มในแนวที่เขาเรียกว่าพลาสติกโซล "Station to Station"
เขาเคยย้ายไปทำงานเพลงที่เบอร์ลินร่วมกับไบรอัน อีโน ศิลปินแนวอิเล็กทรอนิกส์ ออกอัลบั้มด้วยกัน 3 ชุด ได้แก่ "Low", "Heroes" และ "Lodger" ต่อมาในยุค 1980 เขาผลิตอัลบั้ม "Let's Dance" ที่กรุยทางสู่กลุ่มแฟนเพลงรุ่นใหม่ พร้อมกับซิงเกิลฮิต เช่น "China Girl" และ "Modern Love" และทำยอดขายได้ 7 ล้านก๊อบปี้ โดยรวมแล้วผลงานเพลงของเขาขายได้ทั่วโลกถึง 140 ล้านแผ่น
ความสามารถเหมือนกิ้งก่าเปลี่ยนสี ทำให้เดวิด โบวี เปลี่ยนภาพลักษณ์ของเขาบ่อยครั้ง มีตั้งแต่นักแสดงละครใบ้ไปจนถึงนักแสดงคาบูกิ นอกจากผลงานเพลง เขายังแสดงภาพยนตร์และปรากฏตัวในหนังหรือซีรีส์หลายเรื่อง เช่น หนังคัลต์ ปี 2529 "Labyrinth" และ "The Prestige" ปี 2549
เมื่อปี 2556 หลังจากห่างหายจากวงการนาน 10 ปี โบวีทำเซอร์ไพรส์แฟนเพลงด้วยการออกซิงเกิล "Where are We Now?" ในวันคล้ายวันเกิดปีที่ 66 ของเขา
ช่วงหนึ่งในชีวิต โบวีเคยประกาศตัวว่าเป็นเกย์เมื่อปี 2515 แต่หลายปีต่อมาเขาบอกว่าเป็นคนที่นิยมทั้งสองเพศ แต่ในยุค 1980s เขายอมรับว่าได้ทำผิดพลาดที่ประกาศไปเช่นนั้น ที่จริงแล้วเขารักเพศตรงข้าม ดันแคนที่เป็นผู้กำกับหนังเป็นลูกที่เกิดกับแองเจลา ภรรยาคนแรกของเขา ส่วนภรรยาคนปัจจุบันซึ่งเป็นคนที่สองคือ อีมาน ซูเปอร์โมเดลผิวสีที่แต่งงานกันเมื่อปี 2535 และมีลูกสาวด้วยกัน 1 คน
การสูญเสียตำนานวงการเพลงรายนี้อย่างปุบปับสร้างความเสียใจแก่บุคคลหลายวงการ นายกฯ เดวิด คาเมรอน แห่งอังกฤษ ทวีตข้อความว่า ตนเติบโตมากับการฟังและดูผลงานของอัจฉริยะแห่งวงการป๊อป เขาคือปรมาจารย์ของการประดิษฐ์สิ่งใหม่ๆ เป็นความสูญเสียครั้งใหญ่จริงๆ
ศิลปินรุ่นหลัง เช่น มาดอนนา ยกย่องเขาว่า "ศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ท่านนี้เปลี่ยนชีวิตฉัน", คานเย เวสต์ กล่าวว่า เดวิด โบวี เป็นหนึ่งในผู้สร้างแรงบันดาลใจแก่เขามากที่สุด ไม่เกรงกลัวสิ่งใด สร้างสรรค์และสร้างเวทมนตร์ตลอดชั่วชีวิต ส่วนนักแสดงตลก เช่น ริกกี เจอร์เวส์ ที่เคยเชิญโบวีมาปรากฏตัวในซีรีส์ตลกของเขาด้วย กล่าวว่า ตน "สูญเสียฮีโร่" แม้แต่ทิม พีก นักบินอวกาศชาวอังกฤษที่ประจำอยู่บนสถานีอวกาศนานาชาติ ก็กล่าวแสดงความอาลัยหลังทราบข่าวว่าเขาเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง โดยบอกว่าผลงานเพลงของโบวีสร้างแรงบันดาลใจแก่คนจำนวนมาก.
เครดิตจาก
http://www.thaipost.net/