หลายคนตอนเด็ก ๆ คงเคยคิดว่าการที่อวัยวะส่วนสำคัญของผู้ชายแข็งและตั้งตรงได้นั้น เป็นเพราะข้างในมีกระดูกดามอยู่ และถ้าหากใช้ไม่ระวังให้ดีก็มีโอกาสที่จะหักกลางได้ จนเมื่อโตขึ้นมา หลายคนก็เริ่มจะมีความรู้มากขึ้น ทั้งจากการเรียนและจากการถามจากแหล่งต่าง ๆ ทำให้ทราบว่าจริง ๆ ข้างในนั้นไม่มีกระดูก แต่เป็นฟองน้ำเบ ๆ ธรรมดา ก็เลยเบาใจมาหน่อย แล้วก็เริ่มต้นใช้อย่างไม่บันยะบันยังแล้วจริง ๆ จู๋หักได้หรือไม่ ถ้าหากเรายึดตามหลักพุทธศาสนานั้น ทุกสรรพสิ่งสิ่งย่อมมีการเปลี่ยนแปลงและไม่มีอะไรคงทนถาวร ดังนั้นจู๋เราก็เป็นส่วนนึงของกฎไตรลักษณ์เช่นกัน คือมันไม่เที่ยง มีตื่นก็มีเหี่ยวฉันใด มีตั้งก็มีหักได้ฉันนั้น และก็เลยเป็นที่มาของหัวเรื่องนี่แหละ ว่าจริง ๆ แล้วหนะ จู๋มันหักได้แม้ไม่มีกระดูกก็ตาม
ธรรมชาติของจู๋ผู้ชายนั้น ประกอบด้วยฟองน้ำ 2 ส่วน อันนึงชื่อ corcopa cavernosa และอีกอันนึงชื่อ corpus spongiosum ซึ่งเวลาปกติฟองน้ำพวกนี้ก็มีเลือดวิ่งเข้าไปออกมาพอเป็นกระษัย เพื่อทำหน้าที่เลี้ยงเซลล์ส่วนสำคัญให้พออยู่ได้และมีขนาดพอเหมาะพอเจาะกับการเก็บไว้ในที่ลับตา จนเมื่อถึงเวลาคับขัน เช่นถูกกระตุ้นโดยสิ่งรัญจวนเกินห้ามใจ ร่างกายก็จะส่งสัญญาณสารพัดอย่างทั้งกระแสประสาท ฮอร์โมน มาสั่งการให้เพิ่มปริมาณเลือดมาที่ฟองน้ำพวกนี้แหละ จึงเป็นสาเหตุให้จู๋คนปกติจะค่อย ๆ พองขึ้น (นึกไม่ออกลองไปเปิดน้ำใส่ฟองน้ำล้างจานได้นะ) และเมื่อมันพองได้ใจเต็มที่ เราก็จะเอามันมาใช้งานแล้วครับ
ทีนี้ถ้าหาเราใช้งานจู๋ตามปกติ ไม่สมบุกสมบันมาก มันก็คงจะไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งเค้าก็ใช้กันมาเป็นหมื่นปีแล้วหละ เช่นเดียวสรรพสัตว์ตัวผู้ต่าง ๆ ก็ไม่มีเรื่องเช่นกัน แต่ทีนี้มนุษย์ผู้เป็นสัตว์ประเสริฐ เราก็ย่อมมีความคิดสร้างสรรค์ความหฤหรรษ์ต่าง ๆ มากขึ้น ก็เลยเป็นที่มาของสารพัดท่าต่าง ๆ ซึ่งจริง ๆ ก็ครีเอตมาตั้งแต่บรรพกาลแล้วหละครับ เช่นรูปปั้นกามาสุตราของอินเดีย หรือคัมภีร์เต๋าของจีนที่มีมาเป็นพันปีแล้ว ทั้ง หงส์ร่อน มังกรรำ ลิงอุ้มแตง มณโทนั่งแท่น สารพัด ซึ่งบรรดาท่าพวกนี้แหละ ทำให้บางครั้งเกิดความมันส์จนเกิดยั้งใจเป็นสาเหตุให้เกิดเรื่องขึ้นมา
ท่าที่เป็นสาเหตุที่พบบ่อยของการทำให้จู๋หักนั้นคือ woman on top นั่นเองครับ (แต่จริง ๆ แล้วนอกจากการมีเพศสัมพันธ์แล้ว การช่วยตัวเองที่รุนแรงผิดมนุษมนา หรือผิดปกติวิสัยก็ทำให้จู๋หักได้) ซึ่งต่อไปจะเรียกว่าหักงวงไอยราละกัน เพราะว่าจริง ๆ ลักษณะโครงสร้างของอวัยวะส่วนนี้เค้าออกแบบมาให้ใช้ในแนวราบ แต่เมื่อเราเอามาใช้ในแนวตั้ง ทีนี้เมื่อเวลาหน้ามืด มันก็เริ่มไม่ตั้งอย่างเดียวแล้ว มันดันมีเฉียงเหนือเฉียงใต้ แล้วลองคิดหละกันครับ ว่าน้ำหนักต่ำ ๆ ก็ 35++ (ถ้าหากใครที่แบกน้ำหนักต่ำกว่านี้ก็ระวังคุกหน่อยนะครับ) แล้วเอามากดใส่ฟองน้ำเบ ๆ จะเหลือหรือครับ ก็เลยทำให้ฟองน้ำเกิดอาการฉีกขาดขึ้นมา ซึ่งสัญญาณแรกที่ทำให้เจ้าตัวรู้คือ มันจะมีเสียงครับ ตามตำราเรียก cracking sign ซึ่งก็ประมาณเสียงมันฝรั่งเลย์แตกแหละครับ (อ้อ จากสถิติทางการแพทย์นะครับ พบว่าเสาเหตุที่พบบ่อยสุดคือท่ากดไปทางด้านหน้าหรือเอาน้ำหนักพาดจู๋ไปทางสะดือหนะครับ)
เมื่อมีเสียงนี้ดังขึ้นก็งานเข้าแล้วครับพี่น้อง เจ้าทุกข์ก็จะเริ่มมีอาการปวดขึ้นอย่างทันทีทันใดและอวัยวะส่วนสำคัญก็จะเริ่มบวมขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นประมาณมะเขือม่วง (eggplant sign) หลายคนคงงงนะครับว่ามันบวมได้ไง ก็เพราะจริง ๆ จู๋คนเรามันไม่ได้มีแค่ฟองน้ำเฉย ๆ ครับ แต่มันยังมีเนื้อเยื่อคลุมฟองน้ำไว้อีกชั้นนึง (tunica albuginea) ทีนี้เมื่อฟองน้ำที่มันเก็บเลือดฉีก เลือดก็จะกระจายไปรอบทิศทางครับ อยู่ใต้เนื้อเยื่อพวกนั้น เลยเป็นสาเหตุให้มันบวมใหญ่ม่วงคล้ำขึ้นมา โดยเลือดมันจะเซาะไปทั้งบริเวณถุงอัณทะและท้องน้อยได้ ซึ่งหลายคนเห็นแล้วอย่าพึ่งหลงดีใจว่าใช้ครบโปรโมชั่นแล้วมันใหญ่ขึ้นเองนะครับ ที่เกิดขึ้นนี้หนะมันต้องรักษาครับ ซึ่งตัวของสำคัญมันก็จะเบนไปในด้านตรงข้ามกับที่มันฉีกครับ เช่นด้านขวาฉีก จู๋ก็จะบวมแล้วเอนไปด้านซ้าย โดยวิธีที่ดีที่สุดก็คือให้รีบเอาน้ำแข็งโปะครับ เพื่อช่วยยุบบวมและทำให้เส้นเลือดหดตัว จากนั้นก็หิ้วสังขารมาหาหมอครับ ซึ่งเมื่อมาถึงโรงพยาบาลเจอคุณหมอศัลยกรรมก็จะทำการแก้ไขให้ โดยวิธีผ่าตัดครับ (ต้องรีบมาหาหมอนะครับ หลายคนก็มัวแต่อายหมอไปซื้อยามาทานเอง ทำให้พลาดโอกาสทองไป มีงานศึกษาพบว่าถ้าทานยานี่โอกาสหายแค่ 50 เปอร์เซนต์ครับ
หลักการผ่าตัดก็คือต้องผ่าเข้าไปเพื่อหยุดและล้างก้อนเลือดออกให้หมดครับ จากนั้นก็ทำการหาตำแหน่งที่มันฉีกออกและทำการเย็บซ่อมด้วยไหมละลาย จากนั้นก็เย็บผิวหนังกลับคืนแล้วพันผ้างดใช้ซักเดือน 2 เดือนครับ ซึ่งหลังจากกลับไปใช้งานแล้ว พบว่าโอกาสกลับมาใช้งานได้เป็นปกติถึงประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ครับ
สรุปนะครับ จู๋คนเราหักได้ถ้าไม่ระวัง หรือจริง ๆ ถ้าจะเรียกให้ถูกต้องคือจู๋ฉีกมากกว่าเพราะว่ามันไม่มีกระดูก และควรยิ่งเพิ่มความระมัดระวังถ้าหากผู้หญิงจะขอขึ้นเป็นฝ่ายคุมเกมส์เอง ซึ่งอาจเอาบทความนี้ไปให้เค้าอ่านก่อนค่อยเริ่มก็ได้ และหากเกิดปัญหาขึ้นมาแล้วอย่าลืมรีบมาพบแพทย์ทางเดินปัสสาวะครับอย่ามัวแต่ทะเลาะกัน อ้อ พันผ้าเย็นหรือโปะน้ำแข็งมาด้วยนะครับ และที่สำคัญที่สุดคืออย่าลืมหยิบบัตรทองหรือบัตรเครดิตติดมือมาด้วยครับเครดิต: คุณสาลิกาโบยบิน จาก BlogGang
อ่านและดูรูปประกอบได้ที่
http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=thaicirc20&date=15-08-2009&group=10&gblog=3