อันดับหนังไทย ไปไกลเกิน 100 มุ่งสู่ 1000 ล้านหลังจากที่ GTH ฉลองปิดรายได้ในประเทศไปถึง 1000 ล้านบาท ให้กับหนังไทยเรื่อง พี่มาก...พระโขนง ซึ่งถือเป็นหนังไทยที่มีรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ของภาพยนตร์ไทยก็ว่าได้ ที่ผ่านมายังไม่มีภาพยนตร์เรื่องใดที่สามารถทำเงินทะลุหลักพันล้านมาก่อน ภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลที่เป็นแชมป์เก่าก็คือ ภาพยนตร์เรื่อง สุริโยไทผลงานการกำกับของ ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล หรือท่านมุ้ย สร้างโดย สหมงคลฟิล์มและพร้อมมิตร ออกฉายเมื่อปี 2544 และปิดรายได้สูงสุดในขณะนั้นที่ 550 ล้านบาท ครองแชมป์หนังไทยที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลร่วมเวลา 12 ปี จนกระทั้ง พี่มาก...พระโขนง ของผู้กำกับ บรรจง ปิสันธนกุล จาก GTH เข้าฉายเพียงแค่ 3 วันก็มียอดรายได้ละทุเกิน 300 ล้านบาท และในที่สุดก็ทำลายสถิติที่ภาพยนตร์เรื่องสุริโยไททำไว้จาก 550 ล้านบาท พี่มาก...พระโขนง นำความฮาพารายได้ทะยานสู่ 1000 ล้านบาทจากรายได้รวมทั่วประเทศ นี่ยังไม่รวมยอดรายได้จากการนำไปฉายที่ต่างประเทศ ทั้งประเทศเพื่อนบ้านอย่าง พม่า เวียดนาม ลาว มาเลเซีย อินโดนีเชีย ซึ่งมีมีฐานแฟนคลับหนังไทยของค่าย GTH ที่แน่นหนาพอสมควร จนมีกระแสข่าวความแรงมาเป็นระรอกว่า รอบฉายที่ต่างประเทศของเรื่อง พี่มาก...พระโขนงนั้นเต็มเอี๊ยด แน่น! ทุกรอบ ถือเป็นเป็นการพลิกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการภาพยนตร์ไทยเลยก็ว่าได้...
True Movie จึงอัพเดทอันหนังทำเงินสูงสุดตลอดกาลของประเทศไทยมาให้ดูกัน มาดูกันซิว่าภาพยนตร์ไทยที่ทำเงินเกิน 100 ล้าน 21 เรื่องนั้นมีเรื่องอะไรกันบ้าง...
อันดับที่ 1 พี่มาก...พระโขนง / จีทีเอช / ปี 2556 / รายได้ 1000 ล้านบาท
ไม่ใช่ทุกครั้งที่มีการคิดนอกกรอบแล้วจะประสบความสำเร็จ แต่สำหรับ โต้ง บรรจง ปิสันธนกุล ผู้กำกับพันล้านคนแรกของวงการภาพยนตร์ทำมันได้สำเร็จกับการเปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์ตำนานผีที่ลือเลื่องที่สุดของไทย เขากล้าที่จะฉีกตำนาน แม่นาคพระโขนงในรูปแบบเดิมๆ แต่การฉีกขนบหนังในครั้งนี้ ได้รับการวางแผนมาอย่างดี รู้จักวิธีที่จะอุดรอยรั่ว ช่องโหว่ที่จะเกิดขึ้นในหนังและรู้ว่าจะกระทบกับคนดูอย่างไร และจะแก้เกมส์อย่างไร การวางเส้นเรื่องให้ 4 เกลอ เผือก-เต๋อ-เอ-เชน นำทางหนังด้วยความฮา และประกาศให้เป็นที่รู้กันว่า พี่มาก...พระโขนง คืออะไร ไม่ใช่การยืดตามตำนาน 100% และให้ มาริโอ กับ ใหม่ ดาวิกา รับหน้าที่ตัวละครหลักของเรื่อง รับผิดชอบด้านซีนอารมณ์ และสองพระนางก็สอบผ่านด้านความฮาด้วยเช่นกัน ความลงตัวทั้งหลายระหว่างนักแสดง ผู้กำกับ บทภาพยนตร์ และการตลาดที่แข็งแรงจึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะทำให้ พี่มาก...พระโขนง ทำรายได้เกินร้อยล้าน แต่...รายได้หลัก 1000 ล้านนี่เกินคาดหมายจริงๆ แต่นับว่าเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยที่มีภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดและได้รับความสนใจจากต่างประเทศด้วยเช่นกัน
อันดับที่ 2 สุริโยไท / สหมงคลฟิล์ม-พร้อมมิตร / ปี 2544 / รายได้ 550 ล้านบาท
เป็นที่ทราบกันดีว่าตำนานพระศรีสุริโยไทนั้นยิ่งใหญ่ และเมื่อมาอยู่ในมือของท่านมุ้ย ผู้กำกับที่มักจะจับงานใหญ่ๆ อยู่เสมอ บวกกับพลังดาราที่ทุกคนเรียกได้ว่าเป็นแถวหน้าของวงการบันเทิงไทยในขณะนั้น ทุกอย่างคือการรวมตัวของสิ่งที่เรียกว่ายิ่งใหญ่ ทั้งตัวละครหลักในประวัติศาสตร์ของสยามประเทศ นักแสดงที่มีผลงานการันตีฝีมือ ผู้กำกับที่เชี่ยวชาญงานสร้างสเกลใหญ่ๆ คนไทยทั้งประเทศต่างแห่แหนเพื่อเข้าชมภาพยนตร์ที่มีความยาวร่วม 3 ชั่วโมงเรื่องนี้ แม่ว่าจะต้องต่อคิวซื้อบัตรนานหลายชั่วโมงอีกก็ตาม จึงเป็นปรากฏการณ์ 550 ล้านสำหรับหนังไทยเรื่องยิ่งใหญ่แห่งสยามประเทศเมื่อ 10 ปีที่แล้วนั่นเอง
ชมออนไลน์แบบเต็มเรื่อง สรุโยไท ตอน 1 | สุริโยทัย ตอน 2
อันดับที่ 3 ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๑ องค์ประกันหงสา / สหมงคลฟิล์ม-พร้อมมิตร / ปี 2550 / รายได้ 219.06 ล้านบาท
อันดับที่ 4 ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๒ ประกาศอิสรภาพ / สหมงคลฟิล์ม-พร้อมมิตร / ปี 2550 / รายได้ 216.87 ล้านบาท
อันดับที่ 5 ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๓ ยุทธนาวี / สหมงคลฟิล์ม-พร้อมมิตร / ปี 2554 / รายได้ 203.7 ล้านบาท
จะเห็นได้ว่ารายได้ของตำนานสมเด็จพระนเรศวร ทั้ง 3 ภาคลดไปเกิน 50% เมื่อเที่ยบกับความสำเร็จของสุริโยไท ไม่ใช่ว่าเนื้อเรื่องไม่ยิ่งใหญ่หรือขาดความน่าสนใจแต่อย่างใดเลย ระยะเวลาห่างกัน 6 ปีจากการเข้าฉายของสุริโยไท จนมาถึงตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราชภาค 1 ความยิ่งใหญ่ของบทประพันธ์ ความอลังการณ์ของงานสร้างสเกลใหญ่ๆ แบบที่ท่านมุ้ยถนัด หรือการระดมดาราทั่วฟ้าเมืองไทยพาเหรดกันมาผ่านจอให้ผู้ชมได้เห็นอีกครั้ง แต่ด้วยความที่หนังมีความยาวมาก จนต้องแบ่งออกเป็นภาคใหญ่ๆ ด้วยความที่ต้องละเอียดละออกับงานสร้างที่ลงทุนมหาศาล แต่ผู้ชมกลับไม่ตื่นเต้นเสียแล้วกับสูตรเดิมที่เคยสำเร็จจากสุริโยไทเพราะก็เคยเห็นมาแล้ว หนังก็ย่ำทางตามรอยสูตรเดิม บุคคลสำคัญของสยามประเทศ ฉากรบที่ยิ่งใหญ่ที่อาจจะดูทันบ้างไม่ทันบ้าง กระแสปากต่อปากก็เล่าสู่กัน แถมยังมีภาคต่อไปรอให้ไปชมอีก มันจึงลดความตื่นเต้น ลดความต้องการที่จะรีบไขว้คว้าไปดูในโรงใหญ่ ลดลงไปเกิน 50% จากที่เคยประสบความสำเร็จกันเลยทีเดียว แต่รายได้หลัก 200 ล้านบาทก็ดูไม่น้อยสำหรับหนังไทยแต่หากเทียบกับงบลงทุนสร้างหนังที่สเกลใหญ่ขนาดนี้แล้วถือว่ายังติดลบจากเป้าที่ควรจะเป็น
ชมออนไลน์แบบเต็มเรื่อง ภาค1 | ภาค 2 |ภาค 3 | ภาค 4
อันดับที่ 6 ต้มยำกุ้ง / สหมงคลฟิล์ม / ปี 2548 / รายได้ 181.4 ล้านบาท
ฮือฮากันเป็นกระแสอยู่พักใหญ่กับหนังบู๊แอ็คชั่น ที่สร้างชื่อให้ "จา พนม" นักบู๊ตัวจริง ไม่ใช้สลิง ไม่อิงสตั๊นท์ เมื่อพูดถึงเรื่องราวในหนังสำหรับคนไทยก็ไม่ได้มีความแปลกใหม่อะไรมากนัก แต่ด้วยความสดในฉากบู๊ของจา พนม ต่างหากที่เป็นจุดขายสำหรับคนไทย เราทนดูหนังบู้เก๊ๆ เฟคๆ ใช้มุมกล้องหลบกันมานานนม มันจึงเป็นเรื่องแปลกใหม่เมื่อมีใครสักคนที่ยอมเจ็บจริงๆ เสี่ยงตายจริงๆ ในหนังไทย แต่ก็ต้องยอมรับว่าการฝึกฝนจนทำให้จา พนม เป็นผู้ชำนาญคิวบู๊แบบสมจริงนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายทั้งต้องอาศัยเวลาและใจที่สู้จริงๆ จนทำให้เขาเป็นตำนานนักบู๊ของไทยที่ไม่มีใครเหมือน จนประสบความสำเร็จระดับโลก มีชื่อเสียงโด่งดังไปถึงฮอลลีวู้ด แต่นั่นก็มิอาจนำพาเขาไปไกลเกินกว่านี้ ด้วยเรื่องราวสารพันที่เราผู้ชมต่างก็เฝ้ามองจากข่าวตามสื่อต่างๆ มันคงไม่ใช่ว่าเพราะเขาฝีมือไปไม่ถึงฮอลลีวู้ด แต่มันมีหลายองค์ประกอบเมื่อทุกอย่างมันผูกกับคำว่า "ส่วนได้-ส่วนเสีย" และ "ธุรกิจ" แต่อย่างน้อยๆ โลกได้รู้จักคนไทยเพิ่มขึ้น ได้รู้จักประเทศไทยมากขึ้น จากภาพยนตร์เรื่อง "ต้มยำกุ้ง"
อันดับที่ 7 ATM เออรัก เออเร่อ / จีทีเอช / ปี 2555 / รายได้ 152.5 ล้านบาท
แทบจะเรียกได้ว่าเป็นหนัง "ม้ามืด" ที่คู่แข่งไม่ทันระวังตัว วิ่งมาท่ามกลางความมืดก่อนสลัดผ้าคลุมที่หุ้มห่ออัศวินม้าขาวไว้ข้างใน จากภาพยนตร์ที่มาตามสูตรของ GTH เป๊ะ พระเอก เต๋อ ฉันทวิช ประสบความสำเร็จมาแล้วจาก กวน มึน โฮ นางเอกไอซ์ ปรีชญา เป็นใครมาจากไหนไม่มีใครรู้จัก ยิ่งพอพูดถึงชิ่อผู้กำกับ เมษ ธราธร ก็ถึงกับกุบขมับ ใครว้า?? หนังมีจุดแข็งเพียง เต๋อ ฉันทวิช และยี่ห้อ GTH แต่ที่เหลือมันเหนือความคาดหมายจริงๆ หากรายได้อยู่ที่ระดับ 70-80 ล้านบาทก็เรียกได้ว่าไปวัดไปวาไม่อายใครแล้ว แต่...ผู้กำกับหน้าใหม่อย่าง เมธ ธราธร และทีมนักแสดงที่เรามองข้ามไปกลับพาหนังมาไกลเกิน 150 ล้าน ซึ่งก็ต้องยอมรับในจุดที่ว่า ความฮาของหนังเอาคนดูอยู่หมัด ชนิดที่เรียกได้ว่า ทุกเม็ด ทุกมุก แลกหมัดกับความฮาแล้วหน้าท้องสะท้านไปหมด ฮาจนเกร็ง! หนังเรื่องนี้เคยเป็นที่ 1 ในบรรดาหนังทำเงินของ GTH จนกระทั้งถูกพี่มาก...พระโขนง สอยร่วงลงไป แต่อย่างไรก็ดี เต๋อ ฉันทวิช ก็เป็น 1 ในความภาคภูมิใจนี้ เพราะหนังที่เคยเป็นที่ 1 และกำลังเป็นที่ 1 ของ GTH มีชื่อของเขามีส่วนร่วมอยู่ จากนักแสดงนำ 152 ล้านของ ATM เออรัก เออเร่อ สู่มือเขียนบท 1000 ล้านของพี่มาก...พระโขนง!!
อันดับที่ 8 บางระจัน / ฟิล์มบางกอก / ปี 2543 / รายได้ 151 ล้านบาท
บางระจัน ถือเป็นหนังสูตรเดียวกับบรรดาหนังแห่งสยามประเทศของท่านมุ้ย ที่ปลุกระดมความรักชาติให้กับคนดูได้ แต่งานกำกับของ ธนิตย์ จิตนุกูล ที่มี อุ๋ย นนทรีย์ นิมิบุตร นั่งแท่นโปรดิวเซอร์ อาจจะสเกลและทุนสร้างเล็กกว่ามาก แต่ก็ประสบความสำเร็จด้านรายได้ในระดับที่น่าพอใจในยุคนั้น และสร้างชื่อให้กับดาวดวงใหม่แห่งวงการภาพยนตร์ไทยกับอภิมหามหึมา 'เต้ามหาเสน่ห์' ของ "ตั๊ก บงกช คงมาลัย"
อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง : บางระจัน 2
อันดับที่ 9 นางนาก / ไทฯ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ / ปี 2542 / รายได้ 149.6 ล้านบาท
ช่วงปี 2542-2543 เป็นยุคทองของผู้กำกับ อุ๋ย นนทรีย์ นิมิบุตร ที่หยิบจับงานชิ้นไหนก็ของขึ้นไปหมด การหยิบบทประพันธ์ แม่นาค พระโขนง ถ้าเป็นสมัยนี้ก็ต้องเรียกว่านำมา "รีบูท" แบบที่หนังซูเปอร์ฮีโร่เขาทำกัน แต่จากการตีความใหม่ของอุ๋ย นนทรีย์สำหรับแม่นาคพระโขนงที่ใช้ชื่อว่า "นางนาก" นั้นเน้นความเป็นตำนานอย่างเอาจริงเอาจริง มีการทำรีเสิรช์เรื่องของยุคสมัย การแต่งตัว เสื้อผ้าหน้าผม เน้นความน่าสะพรึงของตำนานแม่นาคพระโขนง และทำได้ "ถึง" จนลูกเด็กเล็กแดงรวมถึงผู้ใหญ่หัวดำหัวหงอกที่ไปดูกลับมาแล้วรู้สึกได้ถึงความน่ากลัวของแม่นาคกันจนขนพองสองเกล้า และกลายเป็นผลงานการแสดงที่ดีที่สุดของ ทราย เจริญปุระ ทำให้เธอขึ้นแท่นนักแสดงตัวจริงได้อีกคน
อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง : นาค (อนิเมชั่น) | ตำนานรัก แม่นาค 3D | พี่มาก...พระโขนง
อันดับที่ 10 รถไฟฟ้า..มาหานะเธอ / จีทีเอช / ปี 2552 / รายได้ 145.82 ล้านบาท
เรื่องนี้ก็สูตรสำเร็จเผ็ดมันส์สไตล์ GTH อีกเหมือนกัน พระเอกจะต้องดังสุดกู่ อย่างเคน ธีรเดช ประกบกับนางเอกมือใหม่ คริส หอวัง อาจจะเคยมีผลงานมาบ้างประปรายในวงการบันเทิง แต่เธอก็ยังไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นแม่เหล็ก ที่จะดึงคนดูได้ ส่วนผู้กำกับ ปิ๊ง อดิสรณ์ ก็เป็น 1 ในผู้กำกับแฟนฉันที่พอจะมีเครดิตขายได้อยู่บ้าง แต่เมื่อหน้าหนังเล่นกับสิ่งที่ใกล้จนแทบหายใจรดต้นคอคนดู กับเรื่องของรถไฟฟ้า ที่เพิ่งเข้ามามีบทบาทในชีวิตของคนกรุงได้เพียงทศวรรษ มันใกล้จนทำให้คนดูอินได้ไม่อยากกับเรื่องราวในหนัง ผนวกกับความลงตัวทุกสิ่งอย่าง (อีกแล้ว) ทั้งเคมีพระนางของเคน-คริส ความสดของคริสที่ไม่มีภาพจำอะไรให้คนดูติด ทำให้เธอเป็น 'เหมยลี่' สาวหมวยบ้านๆ ที่เราสามารถเจอได้ตามรถไฟฟ้าจริงๆ หนังมันฮา มันซึ้ง มันตะลึ่งตึ่งโป๊ะ โช๊ะเด๊ะ ไปซะทุกอย่าง
และทั้งหมดนี้คือ 10 Ten All Time Thailand Boxoffice 10 อันดับหนังทำเงินสูงสุดของประเทศไทย ที่เชื่อว่าคอหนังทุกคนไม่พลาดอยู่แล้ว...
11 เรื่องต่อไปนี้ ก็ล้วนแต่เป็นหนังที่ทำเงินเกิน 100 ล้าน กันทั้งนั้นไปดูกันว่ามีเรื่องอะไรบ้าง...
อันดับที่ 11 หลวงพี่เท่ง / พระนครฟิลม์ / ปี 2548 / รายได้ 138 ล้านบาท
อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง : หลวงพี่เท่ง 2 รุ่นฮาร่ำรวย | หลวงพี่เท่ง 3
อันดับที่ 12 แฟนฉัน / จีทีเอช / ปี 2546 / รายได้ 137.3 ล้านบาท
อันดับที่ 13 ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๔ ศึกนันทบุเรง / สหมงคลฟิล์ม-พร้อมมิตร / ปี 2554 / รายได้ 135 ล้านบาท
อันดับที่ 14 กวน มึน โฮ / จีทีเอช / ปี 2553 / รายได้ 130 ล้านบาท
อันดับที่ 15 สุดเขต สเลดเป็ด / M39 / ปี 2553 / รายได้ 125.03 ล้านบาท
อันดับที่ 16 มือปืน|โลก|พระ|จัน / RS FILMS / 2544 / รายได้ 123 ล้านบาท
อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง : มือปืน|ดาว|พระ|เสาร์
อันดับที่ 17 ลัดดาแลนด์ / จีทีเอช / ปี 2554 / รายได้ 117 ล้านบาท
อันดับที่ 18 5 แพร่ง / จีทีเอช / ปี 2552 / รายได้ 112.58 ล้านบาท
อันดับที่ 19 ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ / จีทีเอช / ปี 2547 / 109.98 ล้านบาท
อันดับที่ 20 32 ธันวา / M39 / ปี 2552 / รายได้ 105.56 ล้านบาท
อันดับที่ 21 องค์บาก 2 / สหมงคลฟิล์ม / ปี 2551 / รายได้ 102.29 ล้านบาท
Special thanks :จะเห็นได้ว่ารายได้หนังไทยที่ทำได้สูงๆ เกินหลัก 100 ล้านส่วนใหญ่เป็นหนังที่มีการวางแผนการทำงานครบด้าน ทั้งเนื้อเรื่องน่าสนใจ การวางตัวนักแสดง ความสด ความแปลกใหม่ ที่จะเอาชนะใจผู้ชม และการตลาดที่เหนือชั้น กระแสความแรงของหนังก็ขึ้นอยู่กับตัวหนังเป็นสำคัญที่จะก่อให้เกิดกระแสปากต่อปาก แชร์กันออกไปตามโซเชียลเน็ตเวิร์กที่มีประสิทธิภาพยิ่งกว่าสื่อใดๆ ในโลกยุคนี้ หลังจากที่ พี่มาก...พระโขนง ประสบความสำเร็จด้านรายได้แบบที่ไม่เคยมีหนังไทยเรื่องไหนเคยทำได้มาก่อนแบบนี้ บรรดาผู้สร้างหนังอาจจะต้องทำการบ้านกันให้เยอะขึ้นอีกหลายเท่าเพื่อลบสถิตินี้ และถ้าเป็นได้เช่นนั้นจริง กำไรจากการจ่ายค่าตั๋วดูหนังที่แพงขึ้นทุกวันก็จะกลับมาสู่ผู้ชมบ้างแล้วล่ะ!!
เรียบเรียงโดย : True Movie, Wikipedia