คำพูดที่เราได้ยินบ่อยๆ สำหรับคนที่สนใจเลี้ยงกระบองเพชรว่า “ถ้าเลี้ยงกระบองเพชรแล้วไม่รอด ก็ไม่ต้องเลี้ยงต้นอะไรแล้ว”
เพราะความเข้าใจว่า เจ้าต้นไม้จิ๋วมีหนามนั้นดูแลแสนง่าย ใครๆ ก็เลี้ยงได้ แต่พอได้เลี้ยงจริงๆแล้ว อาจจะพูดอีกอย่างหนึ่ง คือ
“เลี้ยงให้รอดน่ะง่าย แต่เลี้ยงให้สวยน่ะยาก” หรือไม่ “เลี้ยงไม่เคยรอด เน่าตายหมดเลย”
หลังจากเราไปซื้อกระบองเพชรจากร้านมา แล้วเอาพวกเขาไปตั้งบนโต๊ะทำงานหรือห้องรับแขกทันที
ทายได้ทันทีเช่นกันว่า อีกไม่นานต้องเตรียมเงินไว้ซื้อต้นใหม่มาวางแทนตำแหน่งนี้ได้เลย เพราะพวกเขาจะค่อยๆ
ล้มหายตายไปแบบที่เจ้าของก็ไม่รู้ตัวรู้ตัวอีกทีก็จะพบว่าที่เลี้ยงแล้วตายนั้นเพราะดูแลอย่างผิดวิธีนั่นเอง
เพราะอะไร? เลี้ยงยังไงก็ไม่รอด จริงๆ แล้ว หากศึกษาข้อมูลก่อนเลี้ยงก็จะเข้าใจพื้นฐานของต้นไม้ชนิดนี้
การเลี้ยงและดูแลกระบองเพชรก็ไม่ใช่เรื่องยาก หลายคนคิดว่ากระบองเพชรเป็นพืชที่อึด ทนแดดทนแล้งได้ดี
จึงขาดการเอาใจใส่ ซื้อมาก็วางทิ้งๆ ขว้างๆ แต่กระบองเพชรก็มีโรคพืชได้เหมือนกัน เช่น เชื้อราซึ่งเกิดจากความชื้นมากๆ
หรือเจอศัตรูพืชจำพวกเพลี้ยแป้ง ซึ่งถ้าไม่สังเกตก็จะไม่เห็น เจออีกทีรากก็เน่าไปซะแล้ว ดังนั้นเมื่อเกิดเป็นกระบองเพชรแล้วยัง
ต้องการการดูแลเอาใจใส่เหมือนต้นไม้อื่นทั่วๆ ไป
การเลี้ยงกระบองเพชรให้รอดนั้นเลี้ยงง่ายๆ ก่อนอื่นต้องรู้จักธรรมชาติของพืชชนิดนี้ก่อนว่า ถิ่นกำเนิดของกระบองเพชรมาจากพื้นที่
ที่มีฝนน้อย อากาศโปร่งถ่ายเทสะดวก นั่นคือพื้นที่ทางตอนใต้ของทวีปอเมริกาและแอฟริกา ดังนั้นแสงแดดจำเป็นต่อชีวิตของพืชชนิดนี้มาก
แต่ทั้งนี้การดูแลก็ไม่ใช่แค่การนำไปวางไว้กลางแดด เพราะการเลี้ยงให้กระบองเพชรมีฟอร์มต้นที่สวย ออกดอกออกผลก็ต้องใส่ใจเรื่องการให้น้ำให้ปุ๋ย
เรียกว่าประคบประหงมก็ไม่ปาน เสน่ห์ของการเลี้ยงจึงอยู่ที่การลุ้น
อย่างไรก็ตาม การดูแลให้แดดให้น้ำต้องใส่ใจเรื่องสายพันธุ์ด้วย เพราะไม่ใช่กระบองเพชรทุกต้นจะชอบแดด ถ้าเป็นพันธุ์หนามจะชอบ
แดดเป็นพิเศษ ถ้าได้แดดเพียงพอหนามก็จะแข็ง ยาวสวยงาม ถ้าเป็นพันธุ์ขนขาวปุยจะชอบแดดเช้า หรือ 50-65% ถ้าเลี้ยงตามนี้ก็จะขาวหนานุ่มสวยงาม
มือใหม่หัดเลี้ยง การดูแลให้พวกเขางดงาม สวยเหมือนตอนที่ซื้อมา ต้องให้กระบองเพชรค่อยๆ ปรับสภาพที่อยู่ เลือกสถานที่
ที่เหมาะสำหรับกระบองเพชร สำหรับมนุษย์คอนโดหรืออพาร์ตเมนต์ ระเบียงห้องที่โดนแดดเกือบทั้งวันเป็นทำเลที่เหมาะสมที่สุด
สำหรับคนที่อยู่บ้านที่มีสนามหรือพื้นที่โดนแดดได้ทั้งวันจะดีมาก เพราะสามารถนำไปตากแดดให้เต็มที่ เมื่อถึงหน้าฝนถ้าสามารถ
ทำหลังคาใสบังฝนได้จะดีมาก แต่ว่าจะให้ทำแบบนั้นก็คงลำบากจนเกินไป แต่ถ้าไม่สามารถก็ต้องเตรียมยากันเชื้อราเอาไว้พ่นป้องกันรากเน่า
ส่วนการดูแลรดน้ำต้องหมั่นสังเกตดินที่ปลูกว่าแห้งหรือยัง ถ้าแห้งแล้วให้ใช้ฝักบัวรดให้ชุ่ม หลังจากวันแรกที่รดน้ำแล้ว ให้นับวันไปอีกจนกว่าดินจะแห้ง
เว้นไปหนึ่งวันแล้วค่อยรดน้ำอีกครั้ง ปล่อยให้ดินแห้งบ้าง เพราะการที่ดินฉ่ำน้ำตลอดเวลาอาจจะทำให้กระบองเพชรของเราตายก่อนโตได้
ดังนั้นโดยเฉลี่ยจะรดน้ำ 4-5 วัน/ครั้ง สำหรับเวลาใส่ปุ๋ย เราสามารถใช้ปุ๋ยกล้วยไม้โดยผสมให้เจือจางกว่าปกติ และรดในปริมาณที่ต่ำกว่าพืชอื่นๆ
ทุก 2 สัปดาห์ ส่วนยาฆ่าแมลงหรือยาป้องกันเชื้อรา ผสมน้ำพ่น 2 เดือน/ครั้ง ก็เพียงพอ
เมื่อเลี้ยงแล้วรอดไปได้ระยะหนึ่ง ต้นเก่าจะโตคับกระถางเก่า ถึงเวลาต้องเปลี่ยนกระถาง วิธีเลือกกระถางให้เลือกขนาดที่ใหญ่กว่า
ต้นกระบองเพชรเล็กน้อย กระถางดินเผาจะดีเรื่องระบายอากาศ ส่วนการใช้ดินปลูกต้องใช้ดินปลูกเฉพาะสามารถซื้อแบบสำเร็จรูป
หรือจะผสมเองก็ได้ วิธีผสมมีให้เลือกมากมาย ในอินเทอร์เน็ตมีให้เลือกหลากหลาย ข้อสำคัญ หลังจากที่ผสมดินเสร็จแล้ว ควรรดน้ำ
ให้ชุ่มและตากแดดทิ้งไว้ 1-2 อาทิตย์ ก็จะได้ดินที่สะอาดเหมาะกับกระบองเพชรจิ๋วของเรา
ข้อแนะนำสำหรับมือใหม่หัดเลี้ยง คือ เราต้องรู้ตัวเองว่าเราชอบกระบองเพชรแบบไหน ชอบแบบมีหนาม มีขนอ่อน หรือเป็นประเภทไม้
อวบน้ำ ถ้ายังไม่รู้ก็ลองเลือกต้นที่ต้องชะตา เลือกต้นที่ราคาไม่แพงมาเลี้ยงก่อน สอบถามคนขายเรื่องการดูแลจากนั้นถ้าจะไปต่อก็
ต้องศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม สร้างกำลังใจในการเลี้ยง
ต่อไปนี้ไม่ใช่แค่เลี้ยงแล้วรอด แต่เราจะเป็นฝ่ายที่เลี้ยงแล้วรุ่งด้วย
ขอบคุณ ข้อมูลดีๆจากเวกัส168siamsportnews.net