สวัสดีครับ นอกจากการซื้อประกันรถยนต์ และการต่อพ.ร.บ.รถไว้ดูแลคุณและรถยนต์สุดที่เลิฟแล้ว วันนี้เราจะมาบอกเล่า
เกี่ยวกับวิธีการดูแลรักษาสีรถยนต์สุดที่รักของคุณให้ดูใหม่อยู่เสมอตลอดเวลาราวกับถอยมาใหม่ ๆ จากโชว์รูมเลยล่ะ
คิดคนรักรถก็คงจะเข้าใจถึงการลงทุนในการดูแลรักษาสีรถยนต์ ที่เจ้าของรถมักจะให้ความสำคัญเป็นพิเศษ นอกเหนือจากการลงทุน
ในเรื่องการแต่งรถ อย่างไรก็ดี มีบางคนอาจยังเข้าใจผิดระหว่างเรื่องการดูแลสีรถยนต์ มีเพียงวิธีการล้างทำความสะอาดรถยนต์เท่านั้น
ดูแลรักษาสีรถให้ดูเงางามและเหมือนใหม่อยู่เสมอเอาใจสาวกคนรักรถด้วย ! 5 เทคนิคดูแลสีรถยนต์อย่างง่าย แบบมืออาชีพ
เรามาทำความเข้าใจกันก่อนครับว่าการดูแลสีรถยนต์นั้นไม่ได้มีแค่การล้างทำความสะอาด การลงแว็กซ์ หรือการเคลือบเงา
แต่การดูแลรักษาสีรถนั้นถือเป็นเรื่องที่บอบบาง และละเอียดอ่อนมาก ๆ ไม่ต่างกับการดูแลกระเป๋าแบรนด์หรูเลยทีเดียวเชียวนะ ว่าแล้ว
เรามาดูรายละเอียด 5 วิธีดูแลสีรถยนต์กันดีกว่าครับ1. เลือกที่จอดที่ดีที่สุด!หลายครั้งการหาที่จอดอาจทำให้คุณหงุดหงิดใช่ไหมล่ะครับ โดยเฉพาะการหาที่จอดหลีกเลี่ยงแสงแดดนั้นช่างเป็นเรื่องที่ยากเหลือเกิน
แต่นี่ก็คือเรื่องจริงของเหล่านักขับทั้งหลาย และหลายคนอาจนำผ้ามาคลุมรถนั้นเป็นเพียงการป้องกันไม่ให้รถร้อนเท่านั้น แต่การนำผ้ามาคลุมรถนอกจากทำให้รถคุณไม่ร้อนแล้วยังเป็นการปกป้องสีรถของคุณไม่ให้ซีด และเป็นการช่วยไม่ให้รถของคุณอับชื้นสร้างกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ภายในรถอีกด้วย แต่ต้องขึงผ้าคลุมรถให้ดีก่อนคลุมรถ เพื่อไม่ให้รถยนต์เป็นรอยนะครับ
2. ล้างรถด้วยน้ำเปล่าการล้างน้ำเปล่านั้นจะช่วยรักษาประสิทธิภาพของสีได้มากกว่าการล้างด้วยน้ำยาทุกครั้งไม่ควรล้างรถด้วยผงซักฟอก หรือสบู่ต่างๆ
และห้ามใช้น้ำอุ่น หรือ น้ำร้อนเด็ดขาดเพราะสิ่งเหล่านี้จะส่งผลทำให้สีของรถเป็นรอยด่างไม่เท่ากันจนทำให้สีของรถหมดความเงางาม
หลังจากล้างรถเรียบร้อยแล้วก็อย่าลืมเช็ดรถด้วยผ้าสำหรับเช็ดรถ หรือผ้าแห้งนุ่มเพื่อเอาไวใช้เช็ดรถให้แห้งโดยเฉพาะ หลังจากใช้ผ้า
ขนหนูนั้นเช็ดแห้งเรียบร้อยแล้วอย่าลืมทำความสะอาดผ้าขนหนูนั้น และตากให้แห้งเพื่อการใช้การในครั้งถัดไป สิ่งที่ห้ามทำอย่าง
เด็ดขาดก็คือ การทิ้งรถให้แห้งโดยการจอดไว้ที่กลางแจ้ง เพราะรอยน้ำจะมีผลทำให้รถเกิดรอยด่างเป็นวงๆ ขึ้นมา แนะนำให้แยกผ้า
เป็นสองผืน แบ่งเป็นผืนที่เช็ดด้านบน และผืนที่เช็ดด้านล่างของตัวรถ จะช่วยให้สีรถยังคงสวยงามเสมอล่ะ
3. ขัดสีและเคลือบสีรถยนต์ในขั้นตอนนี้หลายคนอาจเข้าใจว่าทั้งสองขั้นตอนนี้คือขั้นตอนเดียวกัน แต่ จริงๆ แล้วสองขั้นตอนนี้แยกกัน คือ การขัดสี และการ
เคลือบสี
- การขัดสีรถก็คือ การขัดผิวหน้าสีหรือแล็กเกอร์ออกไป เพื่อลบรอยที่เกิดจากตราบยางไม้ ขี้แมลง และอื่น หลังจากที่เราได้ขัดสีเรียบ
ร้อยแล้ว ผิวหน้าของสีก็จะดูเรียบเนียน และมีความเงางามมากยิ่งขึ้น
- การเคลือบสี คือ การเคลือบเพื่อปกป้องผิวสีที่ถูกขัดออกไปให้มีความแข็งแรงทนทานต่อรอยที่จะเกิดมากขึ้น ซึ่งการเคลือบนั้นก็ต้อง
ดูตามน้ำยาเคลือบกำหนดเพื่อให้มีอายุการใช้งานยาวนั่นเอง
4. Wrap สีรถยนต์การดูแลรักษารถยนต์โดยเฉพาะสีรถ วิธีการ Wrap รถเป็นอีกเทคนิคที่น่าสนใจ เพราะเป็นการทำสี หรือเปลี่ยนผิวภายนอกรถที่เรา
สามารถทำได้อย่างรวดเร็วมากกว่าวิธีอื่น ๆ ในการทำสีรถที่อาจใช้เวลาเป็นเดือน และอาจมีส่วนทำให้ผิวรถเสื่อมประสิทธิภาพเร็วมาก
ขึ้น ดังนั้น การ Wrap รถแทนที่เราสามารถทำได้โดยไม่ต้องใช้น้ำยาเหมือนกับ “การเคลือบแก้ว” และไม่ต้องขัดผิวใด ๆ ทั้งนั้น
อีกทั้งใช้เวลาเพียงไม่กี่วันก็เสร็จเรียบร้อยพร้อมใช้งาน แนะนำเลือกอู่ที่ดีมีคุณภาพในการ Wrap สีรถยนต์นะ
5. ใช้ดินน้ำมันล้างรถสำหรับผู้รักรถแล้ว การดูแลรักษารถยนต์โดยใช้ดินน้ำมันล้างรถเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการรักษาความเงางามของรถ และเป็นวิธีที่บอบบาง
ที่สุดในการล้างรถ คุณสมบัติของดินน้ำมันก็ความหนืดที่สามารถช่วยดูดละอองฝุ่นที่ผิวรถของคุณ วิธีทำความสะอาดนี้สามารถใช้
เพียง 1-2 ปีเท่านั้น ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม และคราบสกปรกเป็นสำคัญ
เห็นไหมละว่า การดูแลรักษาสีรถยนต์นั้น ไม่ยากเลยใช่ไหมละ เพียงใช้ 5 วิธีดูแลสีรถยนต์ที่ไม่ว่าใครก็ทำได้ด้วยตัวเองขอบคุณ ข้อมูลดีๆจากเวกัส168siamsportnews.net