กะหล่ำปลีม่วง เป็นผักชนิดหนึ่งที่นิยมนำมารับประทานเพื่อสุขภาพ โดยเฉพาะการนำมาทำสลัด เพื่อตกแต่งสลัดให้ดูน่าทานมากขึ้น ถึงแม้ว่าผักชนิดนี้จะเป็นชนิดเดียวกันกับกะหล่ำปลีเขียว แต่คุณค่าทางโภชนาการกลับไม่เหมือนกัน กะหล่ำปลีม่วงสามารถนำมาใช้เพื่อสุขภาพและนำมารับประทาน
ทำความรู้จักกะหล่ำปลีม่วง
กะหล่ำปลีม่วง (Red cabbage) เป็นผักที่อยู่ในตระกูลเดียวกับผักคะน้า ผักกาดขาว มีถิ่นกำเนินอยู่ในแถบเมดิเตอร์เรเนียน ถึงแม้ว่าจะแตกต่างกับกะหล่ำปลีเพียงแค่สี ที่ผักชนิดนี้มีรสชาติที่ขมกว่า และมักถูกใช้เพื่อการตกแต่งจานมากกว่า ทั้งที่มีคุณค่าทางสารอาหารไม่น้อยกว่าผักชนิดอื่นๆ เลย
ประโยชน์กะหล่ำปลีม่วง
ประโยชน์ของกะหล่ำปลีม่วงต่อร่างกายที่น่าสนใจ มีดังนี้
1.ลดความอ้วน กะหล่ำปลีม่วงมีแคลอรีต่ำ มีใยอาหารสูง และยังมีโปรตีนอีกเล็กน้อย เมื่อทานเข้าไปแล้วจะทำให้รู้สึกอิ่มท้อง จึงช่วยในการลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี
2.ลดความเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์ กะหล่ำปลีม่วงมีสารแอนโทไซยานินและวิตามินเค ที่ช่วยบำรุงสมอง ป้องกันประสาทถูกทำลาย และลดความเสี่ยงการเป็นโรคอัลไซเมอร์
3.บำรุงผิว ในกะหล่ำปลีม่วง มีซัลเฟอร์ (กำมะถัน) ที่ช่วยสร้างคอลลาเจนและเคอราตินให้กับผิวหนัง ซึ่งจะป้องกันการเกิดริ้วรอยต่างๆ ได้ นอกจากนี้ยังมีสารแอนโทไซยานินที่ช่วยป้องกันผิวหนังสูญเสียอิลาสติกอีกด้วย
4.ป้องกันมะเร็ง จากการวิจัยพบว่า กะหล่ำปลีม่วงมีสารกลูโคซิโนเลท และสารต้านอนุมูลอิสระอีกหลายชนิด เช่น แอนโทไซยานิน และ อินโดล ที่มีฤทธิ์ในการต่อต้านมะเร็ง และป้องกันการเกิดโรคหัวใจได้
5.รักษาแผลในกระเพาะ กระหล่ำปลีม่วงมีสาร เอส -เมทิลเมไธโอนีล หรือ วิตามินยู ที่ช่วยสมานแผลในกระเพาะ ทำให้น้ำย่อยหลั่งเป็นปกติ บรรเทาอาการปวดท้องจากโรคกระเพาะได้เป็นอย่างดี และยังช่วยกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงบริเวณกระเพาะอาหารมากขึ้น
6.เสริมสร้างภูมิต้านทานให้แข็งแรง กะหล่ำปลีม่วง มีวิตามินซีมากกว่ากะหล่ำปลีธรรมดาถึงสองเท่า จึงช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้แข็งแรงได้ และช่วยป้องกันการเกิดไข้หวัด รวมถึงการติดเชื้อต่างๆ ในร่างกาย
7.บำรุงกระดูกและฟัน แคลเซียมและฟอสฟอรัสในกะหล่ำปลีม่วง ช่วยในการบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง และยังช่วยลดความเสี่ยงโรคกระดูกพรุนเมื่อเข้าสู่วัยทองได้อีกด้วย
ข้อควรระวัง
การรับประทานกะหล่ำปลีม่วงแบบดิบมากๆ จะทำให้ร่างกายได้รับสารกอยโตรเจนสูง ซึ่งสารนี้จะไปขัดขวางต่อมไทรอยด์ไม่ให้ดูดซึมไอโอดีนได้ตามปกติ ผู้ป่วยภาวะไฮโปไทรอยด์จึงไม่ควรรับประทานกะหล่ำปลีดิบโดยเด็ดขาด
ก่อนทานกะหล่ำปลีม่วง ควรล้างผักให้สะอาดก่อนทุกครั้ง เพื่อป้องกันแบคทีเรียและสารพิษจากยาฆ่าแมลงตกค้าง
vegus โปรโมชั่นสมัครสมาชิก