การดูแลเครื่องใช้ วิธีการดูแลรักษาเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านให้ใช้ได้นาน ๆ เป็นเรื่องที่เราจำเป็นต้องรู้เอาไว้บ้าง เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าถือว่าเป็นตัวช่วยสำคัญในชีวิตประจำวันของเราเลยก็ว่าได้ แถมเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละชิ้นราคาก็ไม่ใช่ถูก ๆ ชิ้นหนึ่งก็ตกหลักร้อยไปจนถึงหลักพัน หรือหลักหมื่นเลยทีเดียว และก็แน่นอนว่า ในเมื่อเราลงทุนซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้ามาอำนวยความสะดวกให้ตัวเองขนาดนี้แล้ว ก็ย่อมต้องการให้อยู่กับเราไปนาน ๆ ยืดระยะเวลาใช้งานให้เต็มประสิทธิภาพตราบเท่าที่จะเป็นไปได้ ถ้าอย่างนั้นเคล็ดลับดูแลรักษาเครื่องใช้ไฟฟ้าต่อไปนี้คงมีประโยชน์ให้คุณนำไปทำตามบ้างแน่ ๆ ค่ะ ว่าแล้วก็ไปดูกันเลย
1. ตู้เย็น
ตามสถิติแล้วตู้เย็นมีอายุการใช้งานนานถึง 11-13 ปี แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาของเราเองด้วย ซึ่งเคล็ดลับใช้งานตู้เย็นได้นาน ๆ ก็ทำไม่ยาก เริ่มจากพยายามไม่แช่ของในตู้เย็นเยอะเกินไปจนล้น เพราะจะทำให้ตู้เย็นทำงานหนักขึ้น และพังเร็วกว่าที่ควรจะเป็น รวมทั้งต้องหมั่นทำความสะอาดยางขอบตู้เย็นบ่อย ๆ ด้วยการใช้ผ้าชุบน้ำสบู่อุ่น ๆ เช็ดเอาฝุ่นและสิ่งสกปรกออกไป จากนั้นก็ใช้ผ้าแห้ง หรือฟองน้ำแห้งเช็ดคราบน้ำออกอีกครั้ง สุดท้ายอย่าลืมปัดฝุ่นแผงระบายความร้อน หรือคอยล์ ซึ่งอยู่หลังตู้เย็นเป็นประจำด้วย เพื่อป้องกันฝุ่นและความสกปรกไปอุดตันแผงระบายความร้อน จนทำให้ระบายความร้อนไม่สะดวก ส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานของตู้เย็นถดถอยลง
2. ไมโครเวฟ
ทราบไหมคะว่า ถ้าเราใช้งานไมโครเวฟดี ๆ เราก็จะมีไมโครเวฟใช้ได้นานถึง 10 ปีเลยทีเดียว แต่การใช้งานไมโครเวฟที่จะช่วยรักษาไมโครเวฟให้อยู่กับเราได้นานขนาดนั้นต้องทำอย่างไร ก็ต้องบอกเลยว่าไม่ยากค่ะ เพียงแค่หมั่นทำความสะอาดไมโครเวฟอยู่เสมอแค่นั้นเอง อธิบายง่าย ๆ ก็คือ คราบสกปรกที่ติดฝังแน่นอยู่ในไมโครเวฟเป็นเวลานาน สักวันเศษอาหารเหล่านั้นก็จะเปลี่ยนเป็นคาร์บอน บ่อนทำลายวงจรไฟฟ้าในไมโครเวฟให้เสียหาย ดังนั้นเมื่อรู้อย่างนี้แล้วก็ต้องหมั่นดูแลความสะอาดให้ไมโครเวฟกันด้วย ซึ่งคุณสามารถทำได้โดยนำถ้วยแก้วใสน้ำสะอาด (ผสมมะนาวลงไปด้วยก็ได้ เพื่อกำจัดกลิ่นเหม็น) จากนั้นก็นำไปอุ่นในไมโครเวฟสัก 2-3 นาที ให้ไอน้ำระเหยออกมาสลายคราบสกปรกที่ติดฝังแน่น ทีนี้ก็ใช้ผ้าชุบน้ำ หรือฟองน้ำเช็ดทำความสะอาดอีกครั้งก็เรียบร้อย
3. เตาไฟฟ้า
เคล็ดลับใช้งานเตาไฟฟ้าให้ได้นานถึง 10 ปี ยังคงวนเวียนอยู่ที่เรื่องของความสะอาด เพราะอย่างที่บอกว่า คราบสกปรก และเศษอาหารจะเป็นอุปสรรคของการทำงานเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้ แถมบางทียังแทรกซ้อนลงไปในแผงวงจร ทำให้เตาไฟฟ้าทำงานติดขัดอีกต่างหาก ฉะนั้นอย่าได้ปล่อยให้เตาไฟฟ้ามีคราบสกปรกเด็ดขาดเลยนะจ๊ะ อย่างน้อย ๆ ก็ต้องทำความสะอาดเตาไฟฟ้าสัปดาห์ละ 2 ครั้งเป็นอย่างต่ำ โดยเฉพาะบริเวณที่จุดไฟ ซึ่งต้องใช้น้ำอุ่นผสมน้ำยาล้างจานบาง ๆ เช็ดทำความสะอาดเป็นประจำ
4. เตาแก๊ส
ถ้าลองสังเกตดูดี ๆ เราอาจจะเห็นว่า บริเวณขดลวดทำความร้อนของเตาแก๊ส มักจะมีเศษอาหารที่ไหม้ดำติดฝังแน่นอยู่ และนี่แหละต้นเหตุที่ทำให้เตาแก๊สขัดข้องอยู่บ่อย ๆ เปิดไม่ติดบ้าง หรือไฟลุกท่วม เป็นต้น ดังนั้นทางที่ดีหมั่นทำความสะอาดเตาแก๊สทุกครั้งหลังใช้งานไปเลยดีกว่า ยิ่งกับบริเวณหน้าเตา ปุ่มเปิด-ปิด ซึ่งควรต้องใช้น้ำสบู่อุ่น ๆ เช็ดทำความสะอาดให้หมดจด ส่วนขดลวดทำความร้อนต้องหมั่นตรวจสอบเศษอาหาร และสิ่งสกปรกที่อุดตันอยู่ด้วยค่ะ
5. แอร์
จริง ๆ แล้วเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างแอร์มีอายุการใช้งานนาน 10-15 ปีโดยประมาณ แต่ทั้งนี้ก็ต้องหมั่นดูแลแอร์อยู่เสมอ ด้วยการถอดฟิลเตอร์แอร์ออกมาล้างทุก ๆ 225-360 ชั่วโมง หรือประมาณทุก ๆ 15 วัน ในกรณีที่ใช้งานอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดอาการอุดตัน เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของแอร์ให้สะดวกมากขึ้น นอกจากนี้ระดับอุณหภูมิของแอร์ก็สำคัญเช่นกัน ถ้าอยากใช้แอร์ไปได้นาน ๆ ก็ควรเปิดอุณหภูมิไม่ให้ต่ำเกิน 25 องศาเซลเซียสด้วย
6. เครื่องล้างจาน
สำหรับบ้านไหนที่ใช้เครื่องล้างจานอำนวยความสะดวก ถ้าอยากใช้งานเครื่องล้างจานนานตลอด 10 ปี ก็ต้องดูแลความสะอาดประตูเครื่องล้างจาน รวมถึงฐานด้านล่างของเครื่องล้างจานด้วย เพื่อเป็นการป้องกันรอยรั่ว ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เครื่องล้างจานพังเร็วนั่นเอง
7. เครื่องซักผ้า
เครื่องซักผ้าถือว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นสำคัญในบ้านเลยทีเดียว และเวลาที่เครื่องซักผ้าชำรุดที ก็กุมขมับกันเป็นแถว ๆ แต่ถ้าคุณดูแลเครื่องซักผ้าดี ๆ ไม่โหมใส่ผ้าเยอะเกินจำนวนที่กำหนด รวมทั้งหมั่นตรวจสอบสภาพการใช้งานของสายยางระบายน้ำอยู่เสมอด้วย เช่น หากพบว่าสายยางเริ่มเปราะขาด ก็ต้องรีบซื้อสายยางมาเปลี่ยนใหม่ ไม่อย่างนั้นน้ำในเครื่องซักผ้าจะเอ่อล้นท่วม เสี่ยงต่อวงจรไฟฟ้าของเครื่องซักผ้าน่าดูเลยล่ะ และถ้าเป็นอย่างนั้นก็การันตีได้เลยว่า เครื่องซักผ้าจะอยู่ให้คุณใช้งานได้ไม่ถึง 10 ปีแน่ ๆ
8. เครื่องอบผ้า
เครื่องอบผ้า และเครื่องซักผ้ามีอายุการใช้งานนานพอ ๆ กัน และถ้าอยากใช้งานเครื่องอบผ้านานขนาดนั้น ก็ต้องดูแลรักษากันหน่อย ด้วยวิธีง่าย ๆ อย่างไม่ใส่ผ้าเยอะเกินไป ทำความสะอาดถุงกรองทุกครั้งหลังใช้งาน เพื่อให้เครื่องอบผ้าสะอาดโล่ง และทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น