ดอกกุหลาบ เป็นเครื่องหมายแสดงความรักและความสวยงาม ที่สากลใช้กันมาเป็นเวลานาน ด้วยรูปลักษณ์ที่สวยงามและกลิ่นหอมอันน่าหลงใหล ทำให้ไม่แปลกใจที่ผู้คนจะนำดอกกุหลาบมาเป็นตัวแทนในการแสดงความรัก ในประวัติศาสตร์ของศาสตร์การแพทย์แผนจีน กุหลาบถูกใช้เป็นสมุนไพรในการรักษา มีสรรพคุณช่วยบำรุงด้านผิวพรรณและความงามมายาวนาน วันนี้เราจะพามารู้จักประวัติศาสตร์และสรรพคุณของกุหลาบให้มากขึ้นกันค่ะ
กุหลาบจัดเป็นอาหารและเป็นยามาตั้งแต่สมัยโบราณ โดยมีบันทึกครั้งแรกในสมัยปลายราชวงศ์หมิงของจีน 明代《食物本草》ซึ่งเริ่มใช้ดอกกุหลาบในการต้มไวน์ ทำซอส ชงชา ทำเค้ก และเป็นที่แพร่หลายต่อมาในราชวงศ์ชิง清代 ตามตำนานเล่าว่า จักรพรรดินี อู่เจ๋อเทียน (武则天) หรือที่เราคุ้นเคยกันในชื่อ บู๋เช็กเทียน มีนิสัยชอบดื่มน้ำค้างกุหลาบในตอนเช้าและใช้กลีบกุหลาบมาร์คหน้าในตอนกลางคืน แม้ว่าเธอจะอายุได้ 60 ปี แต่เธอก็ยังมีสีหน้าอมชมพู ผิวพรรณงดงามประดุจหยก และเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา จักรพรรดินีซูซีไทเฮา แห่งราชวงศ์ชิง (慈禧) ผู้ให้ความสำคัญกับผิวพรรณและความงาม มักจะดื่มชากุหลาบเป็นประจำ จักรพรรดินีซูซีไทเฮา ในวัย 60 นั้นยังทำให้จิตรกรของวังหลวงเข้าใจผิดคิดว่าเธออายุเพียง 40 ปี
กุหลาบถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งการรับประทานและการใช้ภายนอกในเวลาต่อมา เนื่องจากเป็นดอกไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินที่เป็นประโยชน์ต่อผิวมากมาย ในปัจจุบันดอกกุหลาบเป็นดอกไม้ที่นิยมนำมาสกัดใช้เป็นน้ำมันหอมระเหย ในลักษณะของเอสเซนเซียล ออยล์ (Rose Extract) ผสมในครีมบำรุงผิวและเครื่องหอมต่างๆ เช่น เทียนหอม ไม้หอม สเปรย์ปรับอากาศ หรือเครื่องพ่นไอน้ำอโรม่า เป็นต้น
ในทางการแพทย์แผนจีนกุหลาบ (玫瑰花) (Rosa rugosa Thunb.) มีรสชาติหวาน ขมเล็กน้อย มีฤทธิ์อุ่น เข้าเส้นลมปราณ ตับ ม้าม มีสรรพคุณในการ กระจายชี่ที่ติดขัด ทำให้รู้สึกสดชื่นผ่อนคลาย กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด สลายเลือดคั่ง ลดปวด เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องฝ้า กระ จุดด่างดำ ใบหน้าหมองคล้ำ ประจำเดือนมาไม่ปกติ ปวดท้องประจำเดือน ปวดตึงคัดเต้านม ที่เกิดจากภาวะชี่อุดกลั้นและมีเลือดคั่ง หรือผู้ที่มีอาการเจ็บปวดจากแผลฟกช้ำ
กุหลาบอบแห้ง: ดอกกุหลาบกับความงามตามศาสตร์การแพทย์แผนจีน อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.onearoon.com/