ปัญหาฟันแบบไหนควรที่จะจัดฟันเด็ก ?ปัญหาฟันในเด็กที่มีความจำเป็นและควรได้รับการจัดฟันในระยะเริ่มต้น (Phase I Orthodontics) คือปัญหาที่เกี่ยวข้องกับ โครงสร้างของขากรรไกร และ พฤติกรรมในช่องปาก ที่จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงหากปล่อยไว้จนกระทั่งเด็กโตเต็มที่ค่ะ
ประเภทของปัญหาฟันที่ทันตแพทย์จัดฟันมักจะแนะนำให้เริ่มการรักษาตั้งแต่อายุยังน้อย (ประมาณ 7-10 ปี):
5 ปัญหาฟันที่ ควรจัดฟันในเด็ก (Phase I Intervention)
1. ปัญหาฟันสบคร่อม (Crossbite)
เป็นปัญหาที่ฟันบนสบอยู่ด้านในฟันล่าง (สลับกัน) ซึ่งถือเป็นปัญหาโครงสร้างที่ต้องแก้ไขทันที:
ฟันสบคร่อมด้านหลัง (Posterior Crossbite): ขากรรไกรบนแคบเกินไป ทำให้ฟันกรามบนสบอยู่ด้านในฟันกรามล่าง หากปล่อยไว้จะทำให้ขากรรไกรล่างถูกบังคับให้เลื่อนไปด้านข้างเมื่อกัดฟัน ส่งผลให้ ใบหน้าผิดรูปหรือเบี้ยว ได้
ความจำเป็น: การใช้เครื่องมือขยายขากรรไกรในเด็กที่กำลังเติบโตสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมาก แต่เมื่อโตแล้วกระดูกจะแข็ง การแก้ไขอาจต้องใช้การผ่าตัดร่วมด้วย
2. ปัญหาขากรรไกรล่างยื่นคร่อมฟันบน (Underbite / Class III Malocclusion)
เป็นภาวะที่ฟันล่างยื่นออกมามากกว่าฟันบนอย่างชัดเจน:
ความจำเป็น: ปัญหานี้เกิดจากความผิดปกติของโครงสร้างขากรรไกร ซึ่งต้องใช้เครื่องมือจัดฟันเพื่อ ควบคุมการเจริญเติบโต ของขากรรไกรบนและล่างให้สัมพันธ์กัน หากแก้ไขช้าเกินไปจนเข้าสู่วัยรุ่น การรักษามักจะทำได้ยากมากและอาจจบลงด้วยการผ่าตัดขากรรไกร
3. ปัญหาฟันหน้ายื่นมาก (Severe Overjet / Class II Malocclusion)
เป็นภาวะที่ฟันหน้าบนยื่นออกมาด้านหน้ามากเกินไป (มักเกิน 3-4 มม.):
ความเสี่ยง: ฟันหน้าที่ยื่นมากจะ เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ (ฟันหน้าแตกหรือหลุด) ได้ง่ายกว่าเด็กคนอื่น ๆ มาก
ความจำเป็น: การจัดฟัน Phase I จะช่วยลดความยื่นของฟันหน้า ทำให้ความเสี่ยงบาดเจ็บลดลง และยังช่วย นำทางให้ขากรรไกรล่างเจริญเติบโต มาข้างหน้าเพื่อรับกับฟันบนอย่างสมดุล
4. ปัญหาฟันสบเปิด (Open Bite)
เป็นภาวะที่ฟันหน้าบนและฟันหน้าล่างไม่สัมผัสกันเมื่อสบฟัน ซึ่งมักมีสาเหตุมาจากพฤติกรรม:
สาเหตุ: มักเกิดจากนิสัย ดูดนิ้ว หรือ ดันลิ้น ระหว่างฟัน
ความจำเป็น: ต้องใช้เครื่องมือจัดฟัน (เช่น EF Line หรือเครื่องมือเฉพาะทาง) ในการ หยุดพฤติกรรม เหล่านี้ทันที เพราะหากปล่อยไว้ พฤติกรรมนี้จะทำให้โครงสร้างฟันและขากรรไกรผิดรูปถาวร
5. ปัญหาขาดพื้นที่ให้ฟันแท้ (Severe Crowding)
เป็นภาวะที่มีฟันซ้อนเกกันอย่างรุนแรง จนไม่มีพื้นที่ให้ฟันแท้ที่กำลังจะขึ้น:
ความจำเป็น: ทันตแพทย์จะใช้เครื่องมือเพื่อ สร้างพื้นที่ (Space Management) ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ฟันแท้ซ้อนเกกันอย่างรุนแรง หรือถูกบล็อกจนไม่สามารถขึ้นได้ ซึ่งจะลดความจำเป็นในการถอนฟันหลายซี่ในภายหลัง
✅ ข้อสรุปสำคัญ: ต้องปรึกษาตั้งแต่ 7 ขวบ
หากบุตรหลานของคุณมีปัญหาใด ๆ ข้างต้น ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้จนกระทั่งฟันแท้ขึ้นครบ เพราะจะทำให้โอกาสในการแก้ไขโครงสร้างขากรรไกรด้วยวิธีง่าย ๆ หายไป
คำแนะนำที่ดีที่สุด คือการพาเด็กมาปรึกษาทันตแพทย์จัดฟันเฉพาะทาง เมื่ออายุประมาณ 7 ขวบ เพื่อให้แพทย์ประเมินว่าปัญหาของเด็กนั้นอยู่ในกลุ่มที่ต้องแก้ไขด่วน (Phase I) หรืออยู่ในกลุ่มที่สามารถรอจัดเรียงฟันในภายหลัง (Phase II) ได้ค่ะ