collapse

ผู้เขียน หัวข้อ: ชายมีเซ็กซ์กับชาย แต่ไม่ใช่เกย์!! แบบนี้ก็ได้ด้วยหรือ? : Safe SEX  (อ่าน 589 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Ka-Chay.2015

  • ไม่ต้องรู้เรื่องส่วนตัวกันมากมาย .. แค่รู้เรื่องของกายกันและกันก็พอ
  • CHAMPION MEMBER
  • PREVILEGE MEMBER
  • *
  • กระทู้: 5,638
  • Total likes: 16
  • คะแนนพิเศษ: +9/-0
  • เป็นความสุขของกันและกัน
 (:do?:)


ชายมีเซ็กซ์กับชาย แต่ไม่ใช่เกย์!! แบบนี้ก็ได้ด้วยหรือ?


“คุณเป็นเกย์หรือเปล่า?”
เปล่า ผมมีเมีย 

“คุณจูบผู้ชายด้วยกันได้ไหม?”
ได้ “แล้วเคยมีเซ็กซ์กับผู้ชายหรือเปล่า?” เคยครั้งหนึ่ง เพื่อนเก่า

“เล่าสถานการณ์ให้ฟังหน่อย”
เจอในงานปาร์ตี้เลี้ยงรุ่น คุยกันถูกคอ แล้วจู่ๆ พออยู่กันสองคน มันก็จูบผม ตอนแรกก็ตกใจนะ แต่ก็รู้สึกดี

“เพื่อนคุณเป็นเกย์หรือเปล่า”
มันไม่ใช่เกย์ มันมีเมียเหมือนกัน

“แล้ว?”
แล้วมันก็แบบว่า... ก็นัวเนียกัน มันเกิดขึ้นเอง เราดื่มเยอะทั้งคู่ แต่ไม่ได้เมามาก

“เพื่อความชัดเจน คุณมีเพศสัมพันธ์กันแบบมีการสอดใส่?”
ใช่

“แต่คุณไม่ใช่เกย์?” ไม่ใช่ ผมชอบผู้หญิง 


        เมื่อพูดถึงความหลากหลายทางเพศ เราส่วนใหญ่คิดว่า อ๋อใช่ ฉันรู้ นอกจากหญิงกับชายแล้วก็มีตุ๊ดมีทอมด้วยนะ คนที่เด็กกว่าเราจะแย้งว่ามีเกย์คิง เกย์ควีน เลสเบี้ยน และดี้ด้วยนะฮะ แต่คนที่เด็กกว่านั้นอีกจะบอกว่า โอ๊ย มีมากกว่านั้นเยอะลุง นับกันไม่ถ้วนหรอก และไม่มีประโยชน์ที่จะนับ


    "ขายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายด้วยกัน... ไม่นับว่าเป็นเกย์เสมอไป" 

     ร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าในโรงเรียนชายล้วนหรือหญิงล้วน คนหนุ่มสาวล้วนเสาะหาประสบการณ์ทางเพศ (หรืออาจจะแค่เรียกร้องความสนใจทางเพศ) จากคนเพศเดียวกัน ก็เพราะว่ามันไม่มีทางเลือกอื่น เด็กผู้ชายจำนวนมากไม่ได้รังเกียจเพื่อนตัวเองที่เป็นกะเทย อาจเคยจิ๊จ๊ะกันซะด้วยซ้ำ ถ้าเขาเป็นกะเทยที่เข้าขั้นสวย เพราะกะเทยมีลักษณะของความเป็นหญิงมากที่สุดแล้วในสภาพแวดล้อมอันจำกัด วัยรุ่นบางคนจึงยอมให้กะเทย ‘บ๊วบ’ หรือ ‘ถวายบัว’ ให้โดยไม่ได้รู้สึกผิดและไม่ได้สับสนสักนิดว่าตนเป็นเกย์หรือเปล่า

     เช่นเดียวกับเด็กผู้หญิงที่หลงรักทอมในโรงเรียน ทอมคือตัวแทนเพศชายเท่าที่หาได้ในสภาพแวดล้อมจำกัด พวกหล่อนตบตีแย่งชิงทอม ร้องไห้กรีดข้อมือเป็นวรรคเป็นเวร แต่พอเรียนจบก็มีแฟนเป็นผู้ชาย แต่งงานมีลูกเต้า ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองเป็นเลสเบี้ยนแต่อย่างใด ทอมบางคนยังเป็นทอมอยู่จนตลอดชีวิต และทอมอีกหลายคนก็เลิกห้าว สวมชุดขาว เดินเข้าประตูวิวาห์กับหนุ่มหล่อ เด็กชายหลายคนที่เคยจิ๊จ๊ะกับกะเทย โตขึ้นมาเป็นเกย์ก็มี ไม่เป็นก็มี นี่คือเรื่องปกติของมนุษย์วัยรุ่น ช่วงที่ฮอร์โมนทางเพศมีอำนาจเหนือการตัดสินใจ จนเข้าสู่วัยกลางคนและเข้าสู่สังคม ‘สหเพศ’ ตามปกติ รสนิยมที่แท้จริงของแต่ละคนจึงเริ่มทำงาน

เฮ้ย กูเคยได้กับไอ้จ๊อดว่ะ ก็โอเคนะ หนุกดี

     ผู้ชายที่พันพัวเชิงกายภาพกับชายอื่น ตั้งแต่ชายที่ยอมให้บ๊วบให้ ชายที่จูบแลกลิ้นกับชาย ไปจนถึงการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งแน่นอนว่าต้องเข้าทางประตูหลัง โดยชายเหล่านั้นล้วนยืนยันว่าตนไม่ใช่เกย์ ตนชอบผู้หญิง ตนมีแฟน เซ็กซ์กับคนเพศเดียวกันกลายเป็นหนึ่งใน ‘การทดลองใช้ชีวิต’ ที่มีคุณสมบัติของความคูล... เฮ้ย กูเคยได้กับไอ้จ๊อดว่ะ ก็โอเคนะ หนุกดี ประโยคนี้อาจจะคูลในสายตาสังคมตะวันตก (หรือเปล่า?) ลองเอาประโยคนี้ไปถามไถ่จากคนไทยคนใกล้ตัว (เกินสิบคน คละเพศและรสนิยมทางเพศ) สมมติสถานการณ์ว่ามันเป็นคำพูดจากปากชายแท้คนหนึ่ง เราสามารถแบ่งปฏิกิริยาของผู้รับฟังได้ดังนี้

    ผู้หญิงแท้: พูดอย่างนี้ก็เป็นเกย์แล้ว ไม่รู้ตัวหรือเปล่า
    เกย์ชาย: โถ แอ๊บแมน อีดอก
    กะเทย: ว้าย ใครอ่ะ ขอไลน์ได้ป่ะ
    เลสเบี้ยน: ตุ๊ดชัดๆ
    ชายแท้ทั่วไป: มุกเหรอวะ
    ชายแท้แมนโคตร: “….!!??”     
    ชายไม่ระบุรสนิยม: “ไม่เห็นแปลก”


แค่ Experiment หรือเข้าข่ายมนุษย์กำกวม? 

       ชายแท้ที่ยอมให้เกย์หรือกะเทย ‘ถวายบัว’ นั้นมีอยู่เป็นปกติ อันนี้เป็นเรื่องเพศล้วนๆ แต่ถ้าเราจะพูดเรื่องความรักความเสน่หาล่ะ? ผู้ชายทุกคนคอนเฟิร์มว่าความรักที่ผู้ชายมีให้กันนั้นก็มีอยู่จริงเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนกับเพื่อน พี่ชายกับน้องชาย และมันสามารถลึกซึ้งได้แน่นอน เป็นความรักที่ผู้หญิงไม่เข้าใจ

       ประมาณว่าลูกผู้ชายด้วยกันถึงจะเข้าใจหัวอกเดียวกัน เป็นโมเมนต์ที่ฝรั่งเรียกว่า Bromance ซึ่งคิดว่าอาจเป็นไปได้ที่บางคนจะเลยเถิดถึงขั้นจูบกันหากสถานการณ์เป็นใจ มีความมึนเมา มีการกระตุ้นให้ปล่อยตัวปล่อยใจ มีความรู้สึกปลอดภัย แต่ถ้าถึงขั้นเข้าประตูหลังกันนั้น...

     “ไม่น่านะ ถ้าจะทำได้ก็ต้องเป็นฝ่ายรุกอย่างเดียว และคนที่รับก็ต้องเป็นกะเทยหรือดูเป็นหญิงอ่ะ ถ้าแมนๆ มาเลยทั้งคู่นี่แปลก แล้วก็ยอมเป็นฝ่ายรับด้วยเนี่ย ไม่รู้ว่ะ กูว่ายังไงก็เกย์ เป็นเพื่อนรักกันแค่ไหนก็ไม่คิดจะยุ่งตูดกันป่ะ” นี่คือความเห็นหนุ่มออฟฟิศสายการเงิน

     “แต่เราว่าเป็นไปได้ ผู้ชายคนนั้นอาจจะเมา หรืออาจจะไม่ได้เมาก็ได้ แต่เขาต้องเป็นคน ‘กำกวม’ คนกำกวมคือยังไม่ตัดสินใจว่าจะไปทางไหน อาจจะมีแฟนเป็นผู้หญิง มีเซ็กซ์กับผู้หญิงได้ แต่ลึกๆ ก็มีความชอบผู้ชายอยู่ด้วย คนแบบนี้มีเยอะนะเว้ย เสือไบ (ไบเซ็กชวล) แต่งงานจนลูกโตแล้วเมียเพิ่งรู้ว่าผัวกำกวม เยอะแยะไป” นี่คือความเห็นนักข่าวสายอาชญากรรม ซึ่งคงรู้เห็นเรื่องราวมามาก

     “เป็นไปได้แน่นอน ผมว่ารสนิยมทางเพศมันลื่นไหลนะ จะเรียกว่าอะไรก็ช่าง” นี่คือความเห็นนักเขียนเกย์ผู้รอบรู้



Bisexual หรือ Gender-Blind?

     เป็นการง่ายถ้าเราจะโยนคนแปลกๆ ที่เราไม่เข้าใจเข้าไปสู่หมวดหมู่ ‘เสือไบ’ ซึ่งชาวโลกมักมีข้อสงสัยมากมายเสมอ เช่น ความชอบทั้งชายและหญิงนั้น เท่าๆ กันเลยไหม? และหากคนเป็นไบเซ็กชวลคบหากับชายคนหนึ่งหรือหญิงคนหนึ่งเป็นเวลานานๆ จะเปลี่ยนจากไบเซ็กชวลไปเป็นเกย์ หรือเป็น Straight หรือเปล่า? หรือจริงๆ คุณแค่สับสนยังเลือกไม่ได้? หรือยังไม่รู้ใจตัวเอง? คำถามพวกนี้ล้วนทำให้คนเป็นไบเซ็กชวลรำคาญเพราะเขาคงเจอมาตลอดชีวิต

   
     ในบรรดาเสือไบด้วยกัน ยังมีพฤติกรรมแยกย่อยที่หลากหลาย สาวไบเซ็กชวลบางคนมีรสนิยมชอบชายที่ดูเหมือนกะเทย แต่กลับชอบผู้หญิงที่ดูทอมๆ หนุ่มไบเซ็กชวลบางคนชอบชายแท้ประเภทแมนสุดโต่ง หรือไม่ก็ผู้หญิงหวานแหววคิกขุไปเลย คือพวกเขาสามารถเดินไปได้ทั้งสองทาง แม้จะเป็นสองทางที่ตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิง หรืออาจจะเป็นสองทางที่ไปในทิศทางเดียวกันก็ได้ เช่น


     “แฟนเก่าผมเป็นผู้ชายแท้ และแฟนคนปัจจุบันของผมเป็นผู้หญิงห้าว” หรือ “ดิฉันชอบสาวน้อยมาตลอดเลย ตอนนี้ดิฉันคบกับจิมมี่ เขาเป็นผู้ชายหวานๆ ไม่ถึงขั้นตุ๊ดนะ แต่เขาอ่อนโยนมาก สรุปได้ว่าดิฉันแพ้ความน่ารักอ่อนโยน” บางสำนักจึงนิยามว่าไบเซ็กชวลคือกลุ่มคนที่ถูกดึงดูดด้วย Masculinity หรือ Femininity ของอีกคน โดยไม่เกี่ยงเพศสภาพที่แท้จริงของพวกเขา หรือที่เรียกว่า Gender-Blind เพศไหนไม่สำคัญ แต่ถ้ามี ‘ความเป็นชาย’ หรือ ‘ความเป็นหญิง’ ในลักษณะที่ถูกจริต เขาก็สามารถมีความสัมพันธ์ด้วยได้

     เมื่อกลับมาพิจารณาชายคนนั้น (ในบทความ GQ UK) ที่มีเซ็กซ์กับเพื่อนชายวัยเด็กของตัวเอง แล้วก็ยืนยันว่าไม่ใช่เกย์และไม่ใช่ไบด้วย แต่เป็น Straight แท้ๆ เพื่อนเกย์สายฟิตเนสของดิฉันให้ความเห็นว่า ถ้ามันเกิดขึ้นแค่ครั้งเดียวก็อาจเป็นแค่การเผลอไผลได้ “ผู้ชายแท้ในฟิตเนสตั้งเยอะชอบมอง ‘ของ’ คนอื่น เหมือนแข่งกันในที แต่แข่งไปแข่งมาอาจจะเกินเลยไป แต่หลังจากนั้นถ้าเกิดอีกและเกิดอีกเรื่อยๆ ก็แปลว่าติดใจแล้วละ... เกย์โลด”

เหตุผลที่ (ไม่จำเป็นอีกต่อไป) ของการจำแนกประเภท

       ‘ยี่ห้อ’ หรือ Label นั้นมีผลทางจิตวิทยาทำให้มนุษย์รู้สึกอบอุ่น การถูกจำแนกทำให้เรารู้สึกเหมือนมีใครสักคนชี้ขาดฟันธงว่าคือเราคือใคร และเป็นพวกเดียวกับใครบ้าง เขาว่าการมีพรรคพวกทำให้คนเรามั่นใจ เรื่องเพศก็เช่นกัน ฟังแล้วก็เมคเซนส์ระดับหนึ่งนะคะ แต่ไม่ว่าสังคมจะจับให้เราอยู่หมวดหมู่ไหน มันก็ไม่อาจเปลี่ยนสิ่งที่เราเป็นได้ หรือถึงแม้สังคมจะไม่สามารถหาหมวดหมู่ให้เราได้ แต่ถ้าสิ่งที่เราเป็นนั้นไม่ได้เลวร้ายหรือทำร้ายใคร คุณจะเป็นอะไรก็เป็นเถิด การค้นหารสนิยมตัวเองเป็นเรื่องน่าตื่นเต้น ขอให้สนุกกับมันให้เต็มที่

     Situationship กลายมาเป็นชื่อเรียกของความสัมพันธ์ที่ไม่มีชื่อเรียก ในสถานการณ์ที่อยู่ก้ำกึ่งระหว่างความสนิทสนมแบบเพื่อน แต่ก็ยังมอบความรักและเซ็กซ์แบบแฟนให้กัน ถ้าให้คุ้นหูคนไทยที่สุดก็คงจะเป็นวลี ‘มากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟน’ แต่ความสัมพันธ์นี้ยังมีมากกว่านั้น แม้จะฟังดูก้ำกึ่ง ไม่ชัดเจน แต่นี่แหละคือจุดแข็งของความสัมพันธ์นี้ เพราะมันคือการตกลงกันอย่างชัดเจนว่าเราจะไม่ชัดเจนกันนะ โดยทั้งคู่พึงพอใจกับพื้นที่ตรงนี้ ไม่ได้อยากก้าวข้ามไปสู่ Relationship แบบผูกมัดจริงจัง ไม่มีการพูดถึงอนาคต แต่ก็ไม่อยากอยู่ในสถานะเพื่อนทั่วๆ ไป แถมในบางครั้ง ก็สามารถปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ได้ด้วยเช่นกัน เช่น ช่วงนี้อยากใกล้ชิดกันมากขึ้น หรือช่วงนี้อยากให้ก้าวถอยออกมาอีกสักหน่อย เป็นต้น 

     ความไม่ชัดเจน ไม่มั่นคง ที่เคยเป็นดั่งหนามยอกใจในความสัมพันธ์ของชาว Gen-Y กลับกลายเป็นของหวานของ Gen-Z ไปเสียแล้ว อลิซาเบธ อาร์มสตรอง (Elizabeth Armstrong) ศาสตราจารย์ด้านสังคมวิทยา จาก University of Michigan ได้ศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง และให้ความคิดเห็นไว้ว่า มุมมองที่ Gen-Z ใช้มองความรักและเซ็กซ์แตกต่างไปจากผู้คนรุ่นก่อนๆ มาก พวกเขาต้องการที่จะได้ลงสนามจริงในทันที เพื่อให้เห็นว่าคนคนนี้ เป็นคนที่ใช่แค่ไหน มีความชอบ ไลฟ์สไตล์ไปด้วยกันได้มากแค่ไหน พิธีรีตองเลยกลายเป็นขั้นตอนน่าเบื่อที่พวกเขาอยากก้าวข้ามไป จะว่าไปมันก็มีความคล้ายคลึงกับการอยู่ก่อนแต่งของ Gen-Y แต่ลดสเกลลงมาเป็นระดับคู่เดตนั่นเอง 

     สิ่งเหล่านี้จึงมักเกิดขึ้นกับผู้คนที่อยู่ในสถานการณ์ที่ไม่อาจมีความสัมพันธ์ผูกมัดระยะยาวได้ เช่น นักเรียนแลกเปลี่ยน นักศึกษาที่กำลังจะเรียนจบในอีกไม่กี่ปี คนที่กำลังมองหางานใหม่ คนที่กำลังย้ายถิ่นฐาน เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้อยู่ในช่วงอายุของ Gen-Z ที่กำลังเริ่มต้นค้นหาความสัมพันธ์ในแบบที่ชอบ ผู้คนแบบไหนกันนะที่เข้ากันได้กับเราจริงๆ เซ็กซ์แบบไหนที่พร้อมกระโจนเข้าใส่ได้ไม่มีเบื่อ Situationship จึงกลายมาเป็นไอเดียหลักในการพัฒนาความสัมพันธ์ของการเดตยุคโมเดิร์นไปแล้ว

     ความชัดเจนว่าจะไม่ชัดเจนของ Situationship ไม่ได้นำพาความกังวล ร้อนรนใจในความสัมพันธ์อย่างที่คิด ในทางกลับกัน กลับทำให้ผู้คนในความสัมพันธ์นี้ ลดความรับผิดชอบต่อความรู้สึกของอีกฝ่ายลง ไม่มี mind game หรือทะเลาะกันด้วยอารมณ์อันเปี่ยมล้นให้ปวดหัว เพราะความยืดหยุ่นในความสัมพันธ์ ช่วยแบ่งพื้นที่ให้คนสองคน ไม่ต้องยืนแนบชิด ฉีกยิ้มให้ผู้คนรอบตัวเห็นว่ายังรักกันแน่นแฟ้น เป็นดั่งคู่รักในอุดมคติแบบความสัมพันธ์ผูกมัด เพราะเธอก็ไม่ใช่ตัวจริงของฉัน ฉันเองก็ไม่ใช่ตัวจริงของเธอ (และไม่คิดจะเป็นด้วย) เราทั้งคู่ต่างมาเจอกัน ดึงดูดเข้าหากัน ใช้เวลาด้วยกัน มอบความโรแมนติกอันหวานชื่น แลกเปลี่ยนความรู้สึกเหมือนเพื่อนผู้รับฟัง ในช่วงเวลาที่ต้องการเท่านั้น

     แต่ก็ใช่ว่าทุกอย่างจะดีไปเสียหมด อีกหนึ่งสิ่งที่ควรระมัดระวังสำหรับ Situationship คือ ความคาดหวัง แม้จะบอกว่าความสัมพันธ์แบบนี้มันไม่ยืนยาวอยู่แล้ว ก็จริงอยู่ แต่เพราะแต่ละคนมีความคาดหวังที่ต่างกัน บ้างอยากได้เพื่อนกินเพื่อนเที่ยว บ้างอยากได้คนที่เซ็กซ์ตรงกัน บ้างอยากพัฒนาหรือคงความสัมพันธ์ไปได้นานกว่านี้ การตกลงขอบเขต เส้นที่ไม่จะไม่ก้าวข้ามจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ควรตกลงกันตั้งแต่ต้น เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจที่ไม่ตรงกันนั่นเอง

     หากวันหนึ่ง เราเข้าไปอยู่ท่ามกลางความไม่ชัดเจน (ที่ตั้งใจ) เหล่านี้ เราจะรับมืออย่างไรได้บ้าง

 
รับความสัมพันธ์แบบนี้ได้จริงหรือแค่อยากลอง

     ด่านแรกและด่านใหญ่ก่อนเข้าสู่สนามจริง มาลงสนามซ้อมด้วยการตอบตัวเองก่อนว่า หากเราไม่สามารถหึงหวง ไม่สามารถมองเห็นอนาคตร่วมกันได้ แม้ในระยะอันใกล้อย่าง 1-2 ปีข้างหน้า เราจะยังมีความสุขกับความสัมพันธ์แบบนี้อยู่มั้ย ถามว่าอยากลองได้ไหม ได้แน่นอน ไม่ใช่เรื่องผิด แต่ก็ต้องเตรียมตัวรับมือกับความสัมพันธ์แบบที่เราไม่เคยเจอมาก่อนด้วย

 
รู้ความต้องการและไม่ต้องการของตนเอง

     ถามตัวเองเสร็จแล้ว ก็ต้องมาเช็กกันอีกทีว่าความต้องการของเรานั้น มีอะไรบ้าง เราต้องการความใกล้ชิดแค่ไหน อะไรที่ทำร่วมกันได้ และอะไรที่ทำไม่ได้ กำหนดเส้นของตัวเองให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้ทั้งเราและอีกฝ่าย เดินไปในความสัมพันธ์อย่างสะเปะสะปะ สิ่งสำคัญคือ เราควรซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเองเข้าไว้ 

 
บอกเล่าความต้องการต่ออีกฝ่ายเสมอ

     อย่างที่บอกในตอนต้นว่าความสัมพันธ์นี้ อาจเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ได้เช่นกัน การอัปเดตความรู้สึกของตนเองต่ออีกฝ่าย จึงเป็นเรื่องจำเป็น เพื่อให้เราและอีกฝ่ายสามารถทำให้ตรงตามความต้องกันและกันได้ หรือถ้าหากอีกฝ่ายเริ่มเห็นไม่ตรงกัน ต้องการไม่ตรงกัน จะได้สามารถแยกทางกันได้ทันเวลา เพราะนี่ไม่ใช่ความสัมพันธ์แบบจริงจัง ที่การเปลี่ยนแปลงอะไรสักเล็กน้อยจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ ความยืดหยุ่นของความสัมพันธ์นี้จึงช่วยให้เรามีรูปแบบความสัมพันธ์อย่างที่ต้องการเสมอ

     ใครจะคิดว่า “เป็นมากเกินกว่าเพื่อน แต่ไม่ใช่คนรัก เธอให้เพียงสัมผัสแต่ไม่ให้หัวใจ” หรือ “หากเคียงชิดใกล้ แต่เธอต้องทิ้งทุกอย่างเพื่อฉัน” เพลงรักในวันวาน ท่ามกลางยุคที่ผู้คนบูชาความรักอันมั่นคง เป็นดั่งรักในอุดมคติ จะกลายมาเป็นรูปแบบความสัมพันธ์ยอดฮิตในศตวรรษถัดมา

 (:cry:)
สถานะ :

                              เป็นความสุข ของกันและกัน
                  ไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องส่วนตัวกันมากมาย 
                   แค่ รู้เรื่องของ "กาย"  กันและกันก็พอ

                                          18 Aug. 2015

ออฟไลน์ Aunder04

  • อั๋นเอง อย่าเกรงใจ
  • PREMIUM MEMBER
  • *
  • กระทู้: 279
  • Total likes: 25
  • คะแนนพิเศษ: +1/-0
มีนะ แฟนอั๋น ก็ได้ทั้งชาย และหญิง
แต่ก็ตามปกติไม่ได้ชอบผู้ชาย มองผู้ชายแบบเกย์หรือไบทั่วไป
Instagram: aunoxx
Facebook: Sataporn Aun Ponjant
__________________________________
SEO x Digital Marketing x Graphic Designer

ออฟไลน์ Ka-Chay.2015

  • ไม่ต้องรู้เรื่องส่วนตัวกันมากมาย .. แค่รู้เรื่องของกายกันและกันก็พอ
  • CHAMPION MEMBER
  • PREVILEGE MEMBER
  • *
  • กระทู้: 5,638
  • Total likes: 16
  • คะแนนพิเศษ: +9/-0
  • เป็นความสุขของกันและกัน
แต่สุดท้าย ... ก็มาตายที่อั๋น ไปไหนไม่รอด 555
สถานะ :

                              เป็นความสุข ของกันและกัน
                  ไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องส่วนตัวกันมากมาย 
                   แค่ รู้เรื่องของ "กาย"  กันและกันก็พอ

                                          18 Aug. 2015

ออฟไลน์ Aunder04

  • อั๋นเอง อย่าเกรงใจ
  • PREMIUM MEMBER
  • *
  • กระทู้: 279
  • Total likes: 25
  • คะแนนพิเศษ: +1/-0
แต่สุดท้าย ... ก็มาตายที่อั๋น ไปไหนไม่รอด 555

ไปไหนไม่รอด เพราะเราทำสเน่ห์ใส่มัน 55555
รักกู หลงกู รักกู หลงกู อิอิ
Instagram: aunoxx
Facebook: Sataporn Aun Ponjant
__________________________________
SEO x Digital Marketing x Graphic Designer

ออฟไลน์ Ka-Chay.2015

  • ไม่ต้องรู้เรื่องส่วนตัวกันมากมาย .. แค่รู้เรื่องของกายกันและกันก็พอ
  • CHAMPION MEMBER
  • PREVILEGE MEMBER
  • *
  • กระทู้: 5,638
  • Total likes: 16
  • คะแนนพิเศษ: +9/-0
  • เป็นความสุขของกันและกัน
แต่สุดท้าย ... ก็มาตายที่อั๋น ไปไหนไม่รอด 555

ไปไหนไม่รอด เพราะเราทำสเน่ห์ใส่มัน 55555
รักกู หลงกู รักกู หลงกู อิอิ

สอนพี่บ้าง
สถานะ :

                              เป็นความสุข ของกันและกัน
                  ไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องส่วนตัวกันมากมาย 
                   แค่ รู้เรื่องของ "กาย"  กันและกันก็พอ

                                          18 Aug. 2015

ออฟไลน์ Aunder04

  • อั๋นเอง อย่าเกรงใจ
  • PREMIUM MEMBER
  • *
  • กระทู้: 279
  • Total likes: 25
  • คะแนนพิเศษ: +1/-0
แต่สุดท้าย ... ก็มาตายที่อั๋น ไปไหนไม่รอด 555

ไปไหนไม่รอด เพราะเราทำสเน่ห์ใส่มัน 55555
รักกู หลงกู รักกู หลงกู อิอิ

สอนพี่บ้าง

ถ้าสอนพี่ได้ ป่านนี้อั๋นต้องมีแฟนสัก 20 คนแล้วพี่
Instagram: aunoxx
Facebook: Sataporn Aun Ponjant
__________________________________
SEO x Digital Marketing x Graphic Designer

ออฟไลน์ Ka-Chay.2015

  • ไม่ต้องรู้เรื่องส่วนตัวกันมากมาย .. แค่รู้เรื่องของกายกันและกันก็พอ
  • CHAMPION MEMBER
  • PREVILEGE MEMBER
  • *
  • กระทู้: 5,638
  • Total likes: 16
  • คะแนนพิเศษ: +9/-0
  • เป็นความสุขของกันและกัน
แต่สุดท้าย ... ก็มาตายที่อั๋น ไปไหนไม่รอด 555

ไปไหนไม่รอด เพราะเราทำสเน่ห์ใส่มัน 55555
รักกู หลงกู รักกู หลงกู อิอิ

สอนพี่บ้าง

ถ้าสอนพี่ได้ ป่านนี้อั๋นต้องมีแฟนสัก 20 คนแล้วพี่

ตอนนี้มีกี่คนครับ
สถานะ :

                              เป็นความสุข ของกันและกัน
                  ไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องส่วนตัวกันมากมาย 
                   แค่ รู้เรื่องของ "กาย"  กันและกันก็พอ

                                          18 Aug. 2015

 

* Calendar

กันยายน 2024
อา. จ. อ. พ. พฤ. ศ. ส.
1 2 3 4 5 6 7
[8] 9 10 11 12 13 14
15 16 17 18 19 20 21
22 23 24 25 26 27 28
29 30