0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
วันที่5 เที่ยวเมืองโอซาก้า อควาเรียม ปราสาทโอซาก้าหลังจากผ่านไป 4 วันของการเดินทาง เราล้ากันมากกับช่วงวันแรกๆครับ แต่ว่าโปรแกรมวันหลังๆ เราจะค่อนข้าง ชิวๆ ไม่เร่งรีบและไม่เหนื่อยกันเท่าไรแล้วครับวันนี้เราจะเดินทางไปเที่ยวในโอซาก้ากันแล้วครับ หลังจากผ่านไปผ่านมาในตัวเมืองโอซาก้ากันอยู่2-3 วันแล้ว โปรแกรมวันนี้เราจะไปเที่ยวในโอซาก้ากันสักทีครับ เราจะไปกันแค่ 3 ที่หลักๆ และก็ตอนเย็นผมจะกลับไปนอนที่ฟูกุโอกะ เมืองแรกที่มาถึงครับเช้านี้ชิวมากๆ ครับ เช็คเอาท์ สายๆ และก็ กินข้าวโรงแรมแบบสบายๆ ไม่เร่งรีบนัก หลังจากนั้นก็สอบถามทางพนักงานสนาถีรถไฟ เพื่อไปซื้อบัตรผ่าน 1 วันที่จะนั่งรถไฟฟ้าในตัวเมืองได้ไม่จำกัด พร้อมเข้าชม พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำทางทะเล หรือ aquarium ที่ kaiyukan กันครับหลัจากนั้นก็นั่งรถไฟ ไปที่แรกกันเลยครับ ปราสาทโอซาก้าภาพที่1-20นี่คือ สถานี NHK ของญี่ปุ่น ที่แท้มันอยู่ตรงนี้นี่เอง!!!ลงจากรถไฟก็เดินมานิดหน่อยเจอถนนสวย ใบไม้ยังเหลืองแดงให้เราได้ถ่ายรูปกันอยู่เลยครับ สวยจริงๆ ญี่ปุ่นนี่สวย สะอาด และก็น่ามาท่องเที่ยวในทุกๆเมืองเลยนะครับ ผมว่าปราสาทโอซาก้าแห่งนี้ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเลยก็ว่าได้ครับ เพราะใครที่มาโอซาก้าก็ต้องมาที่กันทั้งนั้นครับ ผมมาถึงแล้วครับ แค่ภายนอกปราสาท ก็ยิ่งใหญ่สมคำร่ำลือจริงๆใบแป๊ะก๊วยเหลืองอร่าม ร่วงหล่นกองเป็นพรมให้เรามานอน นั่งแอ๊กชั่นถ่ายรูปแบบ มิวสิคๆ หน่อยครับมีการโปรยให้เหมือนใบใม้กำลังร่วงอีกด้วยครับ ผมก็เอาบ้าง เหมือนพระเอกเกาหลี(เหนือ)ไหมครับภาพที่21-40ผมอ่ะชอบมากๆ ใบเหลืองๆ ของแป๊ะก๊วย ถ่ายรูปและเก็บบรรายากาศของวิวรอบปราสาทกันสักพักก็เดินเข้าไปข้างในกันเลยครับ ขอบอกว่าปราสาทใหญ่มากๆ เดินเข้าปราสาทนี้เมื่อยได้เลยน้าปราสาทจะใช้หินก้อนใหญ่มากๆ มาเรียงต่อกันอ่ะครับ ทึ่งในความสามารถของคนโบราณจริงๆนะครับนี่ ถึงแล้วครับหน้าปราสาท ภายในบริเวณปราสาทใบไม้ร่วงไปหมดแล้วครับ แต่ว่าวันนี้อากาศดีทีเดียวครับ ผิดกับเมื่อวานที่ฝนตกทั้งงงวันสัญลักษณ์ของปราสาทโอซาก้าครับ ปลาทอง ที่มุมหลังคาปราสาท แต่ว่าส่วนใหญ่ของที่นี่จะเป็นการทำขึ้นมาใหม่ครับ เก็นว่าปราสาทญี่ปุ่นเกือบทุกแห่งจะมีไฟไหม้ จากสงคราม ไม่ก็ก็จากอุบัติเหตุ มอดไหม้ไป และก็ต้องสร้างใหม่หลายครั้ง ที่นี่ก็ 2-3 ครั้งแล้วมั้งคนเยอะเหมือนกันครับ ซื้อบัตรแล้วเข้าไปชมภายในกันเลยครับ ในปราสาทเข้าทำเป็นเหมือพิพิธภัณฑ์ มีการปรับปรุงภายในให้แข็งแรง และก็มีทั้งลิฟท์ และบันไดให้เราเดินชมเป็นชั้นๆ ไปครับ อยู่ชมปราสาทสักพักแล้วเราก็เดินกลับไปที่สถานีรถไฟเดิมครับ เพื่อจะไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ระดับโลกกันแล้วครับนั่งรถไฟแปร้บบเดียวก็ถึง แต่ต้องเดินไปอีกตามเคย ยังดีที่อากาศดี ไม่ร้อน วิวสวย เอาสิ เมื่อยก็จะไปอิอิที่ด้านหน้ามีชิงช้าสวรรค์วงใหญ่ไว้ให้ชมอ่าว และเมืองด้วยครับ แต่ไม่ได้ขึ้นหรอก หนาวววววอ่ะ ภาพที่41-63 ถึงแล้วครับทางเข้า Kaiyukan เดี๋ยวเราจะเช้าดูข้างในกันครับว่ามีอะไรบ้างเดินเมื่อยๆ ขอแวะนั่งดืมกาแฟ และก็ทานแพนเค้ก น่ารักๆ หน้า aquariumก่อนนะครับ น่าตาน่ากินมาก และก็อร่อยม้ากกกกกกกกกกขนมญี่ปุ่นนี่ผมว่า เขาสร้างสรรค์ จริงๆ นะครับ น่าตาจะน่ากินมาก่อนเลย และก็ส่วนใหญ่รสชาดก็อร่อยนะครับ เยี่ยมๆๆมากๆๆ รักเลยอ่ะพักพอหายปวดขาเราก็พร้อมเดินเข้าไปกันแล้วครับ เห็นว่าใหญ่มากๆ ข้างในอ่ะ น้ำสีฟ้าใสแจ๋วเลยครับ มีฉลาวาฬด้วยนะครับ ไม่ต้องลงดำน้ำลึกเลย สุดยอด เห็นตัวเป็นๆ เลยอ่ะและก็ปลาโมลาครับ น่าตาน่ารักน่าชังของแท้ ว้าวววว ปลาโบราณมากๆๆๆ เห็นแต่ในสารคดี สิงโตทะเล ตัวอย่างใหญ่ ว่ายไปมาโชว์เลยฝูงกลาเล็กปลาน้อยว่ายวนเวียน สุดยอดอ่ะผมว่าที่นี่เป็นสวนสวรรค์ย่อยๆ ที่เราน่าจะมาเยือนกันแห่งหนึ่งเมื่อมาโอซาก้าเลยนะครับปลา สัตว์ทะเล หลากเลย และจัดได้สวยงามมากๆ ตอนแรกผมคิดว่าเดินเล่น ชัวโมงเดียวก็หมดแล้ว แต่ที่ไหนได้เดิน 2 ชั่วโมงกว่าๆ แบบไม่ได้นั่งแช่อะไรเลยนะครับ กว่าจะหมดอ่ะ ใหญ่มากๆ ใหญ่จริงๆเดินอยู่ที่ Aquarium นานไปหน่อยเลยเวลาที่จะไปหาอุปกรณ์ประกอบการทำงานไปเยอะเลยครับ ผมจะกลับไปที่ย่านนัมบะ กันอีกครั้งครับ เดินหาร้านขายอุปกรณ์พิเศษอยู่นานเลยกว่าจะเห็นมันอ่ะ รู้ว่ามีขายอยู่ร้านที่นี่นี่แหละ แต่มันอยู่ในซอกอ่ะ หลงตั้งนานเดินจับเดินดูและจินตนาการว่าได้ลองให้ก็เลือกมา 2 ชิ้นนี้ครับ เดี๋ยวคงได้ลองด้วยกันน้า อิอิอิอหมดแล้วครับวันนี้ นั่งรถไปไปเอากระเป๋าที่ฝากไว้ที่โรงแรม และก็นั่งชินคังเซ็นต่อยาวไปฟูกุโอกะเลยครับ ปิดทายวันนี้ด้วยการกินปูยักษ์ คานิ ของญี่ปุ่นครับ แบบไม่อั้น ชาบู ชาบูกันไปจนอ้วกจะแตกกันเลยยยย อ๊ออออกกกก อิ่มจางงงงง หร่อย หายอยากเลยยย
วันที่6ตะลุยเกาะคิวชู ดู น้ำพุนรก เบปปุ อาบน้ำแร่ออนเซ็นวันที่ 6 วันนี้เป็นวันที่ต้องตื่นเช้าที่สุดครับ เพราะเราต้องเดืนทางกันไปโดยรถไฟเที่ยวเช้ามากๆเพื่อไปยังเมืองที่ชื่อว่า Yufuin ครับ เมืองนี้เป็นเมืองในหุบเขา ทางใต้ของญี่ปุ่นครับ จะเป็นเมืองเล็กๆ บรรยากาศดี มีวิวภูเขาสวยๆ ร้านค้าที่ทำสวยน่ารัก เต็มไปหมดเลยครับภาพที่1-20เรานั่งรถไฟกันแต่เช้าผมเลยของีบสักหน่อย ระหว่างทางอ้าววววว มีหิมะตกโปรยปรายเป็นสายเลยครับ...อู้วววว สวยงามมาก ครั้งแรกเลยนะครับที่ผมได้เห็นสัมผัสหิมะจริงๆ หิมะขาวโพลนไปหมดเลยครับระหว่างนั่งรถไฟ บรรยากาศโรแมนติกสุดๆเล้ยยยพอลงจากสถานีก็เลยตื่นเต้นยกใหญ่เลยครับ หิมะแรกในชีวิต และก็ไม่ได้คาดคิดมาด่อนด้วยครับว่าจะมาเจอมันอ่ะ.....ถ่ายรูปมุมโน้นมุมนี้ใหญ่เลยครับและก็ แหะๆๆ ผมก็ไม่พลาดที่จะลองชิมมันครับ...ก็น้ำแข็งใสน่านนนนแหละ....ตอนนั้นไม่อายล่ะครับ ตื่นเต้นมากกกว่าออกจากสถานีรถไฟ ก็เดินขึ้นเนินไปเรื่อยๆครับ เมืองนี้เที่ยวไม่ยาก บรรยากาศเป็นธรรมชาติ มีร้านค้าเริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวแล้วด้วยครับ ภาพที่21-40บรรยากาศรอบๆ ขอเมืองนี้ครับ เมืองน่ารักๆ กับหิมะขาวปุกปุย และก็มีผมเป็นนายแบบ winter love song อิอิเห็นวิวภูเขานั่นไหมครับ นั่นแหละยูฟู ชื่อของมันกับชื่อของเมืองเลย มีหิมะบนยอดด้วย เอาเป็นว่านี่คือฟูจิของผมกับการมาญี่ปุ่นครั้งนี้แล้วกันครับอากาศเย็นมากๆ เพราะหิมะตกตอนเช้า แต่ตอนสายๆ ก็หยุด และหิมะก็เริ่มละลาย มีแดดด้วยครับ เลยสบายๆ ไม่หนาวมาก วิวสวยดีด้วยครับที่นี่ก็มีไฮไลท์อีกที่ก็คือหมูบ้าน floral village นี้ครับ เขาจัดร้านเล็กๆ ทำเป็นเมืองคล้ายๆ เมืองคนแคระเลยผมว่า แนวโทนเดียวกัน สวยจริงๆครับ ภาพที่41-60แวก็เดินไปทะเลสาปธรรมชาติเล็กกันครับ ด้วยอากาศและวิวรอบข้าง หนองน้ำเล็กๆ แห่งนี้ก็เลยสามารถเป็นอีกจุดที่นักท่องเที่ยวจะมาเยือน ถ่ายรูปกันครับ ขาเดินกลับ ผมแวะมาทานทาโกะยากิ ลูกยักษ์ ลูกขนาดนี้เลยครับ รสชาดก็โอเครับ กินได้ 5555เดินเล่นชิวๆ สักพัก ผมก็เดินกลับมาที่สถานีรถไฟ เพื่อจะไปเมือต่อไปครับ ระหว่างรอก็ขอทานกาแฟอุ่นๆ เคลิบเคลิ้มกับ บรรยากาศรอบๆก่อนนะครับผมเมืองต่อไปที่เราจะไปกันก็เป็นเมืองแห่งบ่อน้ำพุร้อนครับ ชื่อเมือง เบปปุ เมืองนี้เป็นเมืองที่มีบ่อนำพุร้อนธรรมชาติมากมายหลายแห่งเลยครับ และก็ผมจะได้แช่ออนเซ็นก็วันนี้แล้วครับ เป็นสิ่งหนึ่งที่อยากมาทำมากเมื่อมาญี่ปุ่นเลยนะครับผมตามผมไปเที่ยวบ่อน้ำพุร้อนกันเลยครับ นั่งรถเมล์มาสักครึ่งชั่วโมงจากสถานีรถไฟ ก็จะถึงจุดเที่ยวบ่อน้ำพุร้อนแล้ว บ่อแดงนรกอันเล็กๆครับ จริงๆมีบ่อแดงใหญ่กว่านี้อีกที่หนึ่งนะครับผมบ่อนี้จะเป็นบ่อสีน้ำทะเลเลยครับ สวยมาก สีฟ้าสดจริงๆ ควันพวยพุ่งมากมาย ขออบไอน้ำหน่อยนะครับ เพื่อความคงเป็นหนุ่นนานๆภาพที่61-80ไข่ต้มน้ำพุร้อนครับ กิน 1 ใบ อายุจะยืนขึ้น 10 ปี อ่ะ ว่ากันปายยยยบ่อโคลน เดือดปุดเลย ไม่แน่ใจว่ามีแร่ธาตุมากแค่ไหน เอาพอกหน้าพอกตัว แล้วจะผ่องไหมน้า หรือว่าพอง หว่าและก็มีบ่อน้ำพุร้อน ที่เขานำสัตว์เขตร้อนมาเลี้ยงไว้ เพื่อแสดงให้ดูว่า น้ำพุร้อนสามารถสร้างสรรค์ สิ่งที่อยู่เขตอุณภูมิต่างกัน ก็ยังสามารถใช้ชีวิตที่ได้ เพราะมีน้ำพุร้อนผมเที่ยวแค่ 3 บ่อนี่แหละครับ ก็คงพอแล้ว จริงๆ เขามีถึง 8 บ่อเลยครับ เพราะว่าผมอยากไปแช่น้ำพุร้อนแล้วอ่ะครับ ไปที่พักแบบเรียวกังของผมดีกว่านี่ครับที่พักของผม เป็นแบบบ้านญี่ปุ่นสมัยก่อนเลย นอนเสื่อทาทามิ และฟูกนอนแบบญี่ปุ่น ใส่ยูคาตะด้วย แต่ว่าผมใส่ไม่ค่อยเป็นหรอกนะครับ แต่ว่าเอาบรรยากาศอ่ะ อินมากๆ เลยครับแปลงเป็นหนุ่มญี่ปุ่นแล้วครับ เหมือนไหมอ่ะครับผมภาพที่81-100แล้วก็เดินไปบ่อออนเซ็นกันครับ ที่พักที่นี่สามารถเลือกแบบ่อส่วนตัวหรือบ่อรวมได้ครับ จริงๆผมอยากไปลองบ่อสาธารณะข้างนอกนะครับ แต่ติดว่ามีรอยสัก เลยไม่กล้าไปกลัวโดนไล่ออกมาอ่ะครับแล้วผมก็ขอตัวไปแก้ผ้าออก เปลือยเปล่าล่อนจ้อน ลงแช่ออนเซ็น ก่อนนะครับผม อิอิ อาบลมห่มฟ้าแช่ออนเซ็น พร้อมจิบเหล้าบ้วย อูยยยยย ขอบอกว่าสุดยอดครับ น้ำร้อนที่นี่เขาว่าต่อมาจากบ่อธรรมชาติที่อยู่มากมายในเมืองนี้ครับ ร้อนได้ที่เลยครับ ตอนแรกที่ผมแหย่ขาลงไปนี่ร้อนมากอ่ะ แต่พอสักพักลงทั้งตัวนี่โอ้ สวรรรค์ เลยครับแช่ประมาณ 30 นาทีครับ เพราะแช่นานไม่ดีแหงๆ อากาศหนาวมากๆ น้ำก็ร้อนเดี๋ยวจะไม่สบายไปครับ และแล้วก็จบภารกิจอีกอันของการมาเที่ยวญี่ปุ่นครับ การแช่ออนเซ็น คืนนี้ผมคงหลับฝันดีแน่ๆ เลยครับ