0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ขอบคุณครับ ปี57 รัฐจะใช้วิธีลดแบบใหม่
1. ผู้มีเงินได้: หักลดหย่อนได้ 30,000 บาท 2. คู่สมรส: หักลดหย่อนได้อีก 30,000 บาท สำหรับคู่สมรสที่ไม่มีรายได้ หากมีรายได้ ให้หักแยกคำนวณภาษีจะดีกว่า3. บุตร: หักได้คนละ 15,000 บาท ไม่เกิน 3 คน รวมแล้วไม่เกิน 45,000 บาท , ถ้าศึกษาภายในประเทศได้เพิ่มอีกคนละ 2,000 บาท รวมแล้วเป็นคนละ 17,000 บาท ** ผู้เยาว์ อายุไม่เกิน 20 ปี หรือ อายุ 21-25 ปี ที่กำลังศึกษาในระดับ อุดมศึกษา,ปวส โดยยกเว้นบุตรมีเงินได้พึงประเมินในปีภาษีตั้งแต่ 15,000 บาทขึ้นไป (ไม่สามารถใช้สิทธิลดหย่อนบุตรได้)4. บิดามารดา: หักค่าลดหย่อนในการอุปการะเลี้ยงดูบิดาและมารดาที่มีอายุเกิน 60 ปี ได้คนละ 30,000 บาท (แต่ว่าบิดาและมารดาต้องไม่มีรายได้พึงประเมินในปีภาษีนั้นเกิน 30,000 บาทขึ้นไป) ถ้าในกรณีที่ครอบครัวนั้นมีบุตร มากกว่า 1 คน บุตรเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถหักค่าลดหย่อนของบิดามารดาได้ 5. เบี้ยประกัน: หักลดหย่อนเบี้ยประกันชีวิตได้ตามจริง - ประกันชีวิต แบบสะสมทรัพย์ ไม่เกิน 100,000 บาท และต้องเป็นการทำประกันที่มีความคุ้มครองเกิน 10 ปี - ประกันชีวิตแบบบำนาญ ผู้มีเงินได้สามารถซื้อได้เพิ่มเติมอีก 15% ของรายได้พึงประเมิน แต่ต้องไม่เกิน 200,000 บาท หากรวมกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และกบข. แล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท - การซื้อประกันสุขภาพให้กับบิดามารดา (60 ปี ขึ้นไป ) บุตรนำมาหักลดหย่อนได้ตามจริง แต่ไม่เกินคนละ 15,000 บาท โดยบิดา และมารดา ต้องมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท/ปี6. เงินสะสม: ส่วนใหญ่เป็นการหักลดหย่อนจากการซื้อกองทุน รวมหุ้นระยะยาว (LTF) ที่สามารถซื้อและหักได้ตามจริง แต่ต้องไม่เกิน 15% ของรายได้รวม และยอดรวมไม่เกิน 500,000 บาท ส่วนการหักลดหย่อนจากการซื้อกองทุนรวม เพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ก็คล้ายกันคือ 15% ของรายได้รวม และยอดทั้งหมดเมื่อรวมกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund) และกบข. จะต้องไม่เกิน 500,000 บาท7. ดอกเบี้ยเงินกู้ยืม: หักลดหย่อนได้เฉพาะดอกเบี้ยเงิน กู้เพื่อที่อยู่อาศัย แต่มูลค่าต้องไม่เกิน 100,000 บาท ซึ่งโดยปกติแล้วสถาบัน การเงินจะเป็นผู้สรุปยอดเงินที่เราจ่ายจริงในช่วงปี ที่ผ่านมา8. ประกันสังคม: หักลดหย่อนตามจำนวนเงินที่บริษัทหรือนาย จ้างหักไว้เพื่อเข้ากองทุนฯ อันนี้นายจ้างปกติก็จะทำสรุปมา ให้ว่าระหว่างปีได้ส่งเงินสมทบเข้ากองทุนไป แล้วเท่าไหร่9. เงินสนับสนุนเพื่อการศึกษา: หักลดหย่อนได้ 2 เท่าของเงินที่จ่ายจริง แต่ต้องไม่เกินร้อยละ 10 ของเงินคงเหลือหลังจาก หักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนอื่น ๆ แล้ว (หมายเหตุ: ในกรณีที่บริจาคให้กับสถาบันการศึกษา ให้ตรวจสอบว่าสถานที่บริจาคนั้น มีอยู่ในบัญชีรายชื่อสถานศึกษาที่กระทรวง ศึกษาธิการประกาศกำหนดหรือไม่? เพียงเท่านั้นการบริจาคเพื่อสนับสนุนการศึกษา ต้องเป็นไปตามวัตถุประสงค์ เพื่อการจัดหา จัดสร้างอาคาร วัสดุอุปกรณ์ และครู อาจารย์เท่านั้น10. เงินบริจาค: สามารถหักลดหย่อนเงินบริจาคได้ตามจริง แต่ต้องไม่เกินร้อยละ 10 ของเงินคงเหลือหลังจากหักค่าใช้จ่าย และค่าลดหย่อนอื่น ๆ แล้ว
ปีนี้ เกณฑ์เปลี่ยนไหมอ่ะ