มีใครเคยเป็น “ฝี” กันบ้างไหมเอ่ย ? ใครที่ยกมืออาจจะเข้าใจประสบการณ์การความทรมานที่เคยเป็นฝีได้ดี ตุ่ม ๆ กดแล้วเจ็บ เหมือนสิวแต่ไม่ใช่สิว และที่สำคัญ หากมีหนองขึ้นมายิ่งเจ็บ ยิ่งหายยาก หลายคนอาจเข้าใจว่าเป็นสิวขนาดใหญ่ และลงมือบีบหนองเอง แต่อันที่จริงแล้วหากเป็นฝี ควรพบแพทย์เพื่อทำการรักษาอย่างถูกวิธีจะดีที่สุด เพราะการรักษาเองโดยไม่ถูกวิธี เสี่ยงอักเสบ เป็นแผลใหญ่ และอาการหนักรักษายากกว่าเดิม
ทำไมเราถึงเป็น “ฝี” ?
ฝี เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย เมื่อร่างกายสกปรก อ่อนแอ และมีภูมิคุ้มกันต่ำ ทำให้ร่างกายติดเชื้อแบคทีเรียง่าย นอกจากนี้ผู้ป่วยเบาหวานที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูง ก็เสี่ยงเป็นฝีได้มากกว่าคนปกติ โดยฝีมักเกิดขึ้นบริเวณที่เกิดแบคทีเรียได้ง่าย เช่น บริเวณที่เป็นจุดอับชื้นต่าง ๆ
ฝี และ สิว ต่างกันอย่างไร?
แม้ว่าลักษณะภายนอกในบางครั้งอาจทำให้เข้าใจผิดคิดว่าเป็นเพียงสิวเม็ดใหญ่ๆ ธรรมดาๆ แต่จริงๆ แล้ว สิว กับ ฝี มีสาเหตุของการเกิดที่ต่างกัน สิวมักเกิดจากการอักเสบของต่อมไขมัน ดังนั้นจึงมักเกิดสิวที่บริเวณที่มีความมันเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นใบหน้า หนังศีรษะ ใบหู แผ่นหลัง แผงหน้าอก เป็นต้น แต่ฝีสามารถเกิดขึ้นที่บริเวณใดก็ได้ในร่างกาย เราจึงอาจพบฝีได้ที่ใบหน้า ลำคอ แผ่นหลัง หน้าอก หรืออาจจะเป็นที่แขน ขา ก้น ก็ได้
สิว มักมีขนาดเล็กกว่าฝี และสามารถหายได้เอง หรือดีขึ้นได้ภายในเวลาไม่นานนัก แต่หากเป็นฝีเราจะเห็นว่า นอกจากจะมีอาการปวดบวมแดงกว่าสิวปกติแล้ว ยังไม่มีอาการดีขึ้น เมื่อใช้ยา หรือเจลแต้มสิวตามปกติ เพราะสิว และ ฝี เกิดจากเชื้อแบคทีเรียคนละตัวกัน ดังนั้นวิธีการรักษาก็จะแตกต่างกันไปด้วย
สุขภาพ : ทำไมเราถึงเป็น “ฝี” ? ดูเพิ่มเติมที่นี่ http://สุขภาพ.cc/