สารสกัดกระชายขาว มีสารสำคัญ 2 ตัวคือ
1. PandulatinA (แพนดูเรทีน-เอ) ซึ่งเป็นสารบริสุทธิ์ที่แยกได้จากเหง้าของกระชายขาว มีฤทธิ์ในการยับยั้งเชื้อไวรัสก่อโรค ทั้งการยับยั้งเชื้อไวรัสก่อนเข้าสู่เซลล์หรือการป้องกันการติดเชื้อ และการยับยั้งไวรัสภายหลังจากไวรัสเข้าสู่เซลล์หรือการรักษาภายหลังการติดเชื้อแล้ว จึงค่อนข้างมีความปลอดภัยต่อการนำมาใช้
2. Pinostrobin (พิโนสโตรบิน) เป็นองค์ประกอบทางเคมีชนิดหลักที่พบในกระชายขาว ซึ่งเป็นสมุนไพรพื้นบ้านที่พบได้ทั่วไปในประเทศไทย มีฤทธิ์ทางชีวภาพที่หลากหลาย เช่น ต้านเชื้อแคนดิดาอัลบิแคนส์ ต้านเชื้อไวรัส ต้านออกซิเดชัน ต้านอักเสบ ต้านลิวคิเมีย ต้านเอนไซม์อโรมาเทส (anti-aromatase) ต้านเซลล์มะเร็งเต้านม ปกป้องเซลล์ประสาท
ปริมาณกระชายขาวที่ควรกิน
1. สำหรับการนำกระชายขาวมาปรุงเป็นอาหาร การดยนำเหง้าหรือรากของกระชายขาวล้างให้สะอาดแล้วปรุงนำไปปรุงร่วมกับส่วนผสมอื่น ควรรับประทาน 3 มื้อ ครั้งละ 25 กรัม หลังอาหาร
2. สำหรับการนำกระชายขาวแห้งชงกินกับน้ำร้อน โดยการนำเหง้าและรากกระชายขาวแห้งมาบดเป็นผง เทน้ำร้อนแล้วคนให้เข้ากัน ควรดื่มทั้งน้ำและเนื้อ เนื่องจากสารสำคัญในกระชายขาวไม่ละลายน้ำ จึงต้องรับประทานเนื้อด้วย
3. สำหรับผลิตภัณฑ์อาหารเสริม กรณีมีแคปซูลกระชายขาว ให้รับประทานครั้งละ 2 กรัม หลังอาหาร 3 มื้อ
4. สำหรับเครื่องดื่มน้ำกระชาย (ไม่ต้องแยกกาก) โดยใช้เหง้ากระชายสด 1 ขีด หรือ 25 กรัม ล้างให้สะอาด ปั่นให้ละเอียดกับน้ำสะอาด 300 มิลลิลิตร ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว 20 มิลลิลิตร และน้ำผึ้ง 20 มิลลิลิตร แบ่งดื่มหลังอาหาร 3 มื้อ
กระชายขาว มีฤทธิ์อะไร อ่านบทความเพพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://mmed.com/product/mmed-finger-root-extract-plus-beta-glucan/