ในยุคปัจจุบันแบ่งออกเป็นสองชนิด ที่ไม่ว่าประเภทใดก็ส่งผลกระทบกระเทือนต่อร่างกายอยู่ที่ว่ามากหรือน้อยโดย เบาหวานชนิดที่ 1 ถือได้ว่า ผลร้ายเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ก็เพราะว่า เบาหวานจำพวกนี้ เกิดจาก ภูมิต้านทานของตัวเรา ไปทำลายเซลล์ที่มีการทำงานสร้างอินซูลิน ซึ่งเกิดจากปัจจัยของร่างกายเราเอง ที่ไปทำลายเซลล์ จนไม่สามารถผลิตอินซูลินได้ หรือสามารถผลิตได้ในปริมาณที่นิดหน่อย และหากว่าเรามีอาการเบาหวานชนิดนี้สาหัส ก็จะหลั่งสารชนิดหนึ่งออกมาเป็นส่วนมาก เราเรียกสารนี้ว่า คีโตน ซึ่งเป็นพิษต่อระบบประสาทในร่างกายเป็นอย่างมากมาย หากหลั่งมากก็อาจทำให้เกิดอาการไม่มีสติ หรือไม่ดีที่สุดก็คือ เสียชีวิตได้ คนเป็นเบาหวานประเภทนี้ถือได้ว่า ผลร้ายมาก และจะต้องมีการฉีดอินซูลิน เข้าไปในร่างกายตลอดมา เพราะไม่สามารถผลิตได้เอง แต่เราต้องควบคุมน้ำตาลในเลือด นั่นเองเพราะด้วย โรคเบาหวาน
มากันโดยมากมาก เพราะ ถือได้ว่าโรคพวกนี้เป็นโรคยอดฮิตอันดับต้นๆที่คนไทยมักเป็นกันเลย แม้ว่าคนที่เป็นโรคนี้อาจจะไม่ได้เป็นผลร้ายถึงกับชีวิต แต่อาการแทรกซ้อนต่างๆที่เกิดจากโรคนี้ อาจจะวิกฤติถึงขั้นเสียชีวิตเลยก็ได้ เราคงเคยได้ข่าวกันมาบ้างว่า มีหลายคนตาบอด เสียอวัยวะ ต้องตัดแขน ตัดขา เพราะที่มามาจากโรคประเภทนี้ หลายคนคิดว่า เจ้าโรคนี้ค่อนข้างห่างจากตัวเรามาก เนื่องจากตัวเราอายุยังนิดหน่อย อีกทั้งก็เป็นคนที่ไม่ชอบรับประทานหวานอยู่แล้ว จึงไม่น่าจะเป็นกลุ่มล่อแหลม ซึ่งในความเป็นจริงแม้ว่า เบาหวาน จะเกี่ยวข้องกับระดับน้ำตาลในโลหิตโดยตรง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า คนที่ไม่ทานหวานจะไม่มีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคนี้ ดังนั้นแล้ว เพื่อการปฏิบัติตนที่ถูกต้อง การปกป้องรักษาอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นจากโรคจำพวกนี้ ในวันนี้เราจึงมาเล่าเรื่องให้ฟังและทำความรู้จักมักจี่เกี่ยวกับ เบาหวาน ให้มากยิ่งขึ้นครับ ไม่แน่ว่า เหตุการณ์ต่างๆที่คุณเคยได้ยินมา อาจจะเป็นเรื่องรู้ผิดก็เป็นได้อย่างที่เราพอทราบข่าวสารกันมาบ้างแล้วว่า โรคเบาหวาน
เกิดจากความผิดปกติของร่างกาย ที่ไม่สามารถผลิตอินซูลิน ได้พอเพียงต่อความประสงค์ ตัวอินซูลินนี่เองเป็นตัวกำกับระดับน้ำตาลในเลือด เมื่อเกิดอาการผิดปกติ ผลิตได้ไม่พอแล้ว จึงทำให้ ระดับน้ำตาลในเลือดสูงมากเกินพอดี เมื่อมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงมากมาย และร่างกายผลิตอินซูลินมา ไม่เพียงพอต่อความต้องการ ก็จะทำให้ ร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลไปใช้ได้อย่างมีสมรรถนะสูงสุดนั่นเอง หลังจากนั้น เมื่อมีน้ำตาลในเลือดจำนวนมาก ก็จะส่งผลกระทบต่อระบบการทำงานอื่นๆในร่างกาย และจะไปทำลายหลอดเลือดพร้อมด้วย ซึ่ง ถ้าแม้ตัว เบาหวานเอง จะเป็นเพียงเรื่องของ น้ำตาลในเลือดสูงมากเกินควร แต่ผลที่ตามมาก็คือ ภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปมปัญหาหลอดเลือดหัวใจ การติดเชื้อง่าย ร่างกายซูบผอม ฯลฯ ดังนั้นแล้ว หากว่าไม่เยียวยารักษาอาการเบาหวานอย่างถูกต้อง ก็มีความเสี่ยงสูงต่อโรคภัยไข้เจ็บต่างๆที่จะตามมาครับทราบหรือไม่ครับว่า เรามีมวลมนุษย์มากกว่า 300 ล้านคนเป็น
โรคเบาหวาน โรคเบาหวาน
ชนิดที่ 2 เป็นเบาหวานที่คนส่วนใหญ่เป็นกันครับผม เรามักจะเข้าใจว่า เหตุจากคนที่กินอาหารหวานบานเบอะๆ เลยเป็นเบาหวาน แต่ในความเป็นจริงแล้ว การรับประทานหวานไม่ได้เป็นสาเหตุในการเกิดขอรับ เพียงแต่ว่า เมื่อเป็นแล้ว การรับประทานหวานจะทำให้อาการแย่ลงนั่นเอง ซึ่งอันที่จริงแล้ว เบาหวานกลุ่มน โรคเบาหวาน
หลายคนค่อนข้างจะเคยได้ฟังเกี่ยวกับเรื่องของ โรคเบาหวาน
และส่วนมากร้อยละ 80 เป็นชาวเอเชียอีกด้วย เหตุดังนี้เอง เราจึงมี วันเบาหวานโลก โดยเจาะจงให้เป็นวันที่ 14 พฤศจิกายน รายปีนั่นเอง เพื่อที่จะให้คนทั้งโลกเห็นความยิ่งใหญ่และวิกฤติของโรคชนิดนี้ และเป็นการรณรงค์เพื่อป้องกันกัน อีกด้วยหลายคนอาจจะยังไม่มีความรู้ความหมายเกี่ยวกับเรื่องของ เบาหวานและอินซูลิน กันสักเท่าใดนัก อ่านตอนแรกๆอาจจะดูพิศวง<span style=
line-height: 1.42857;
>นะครับ แต่ เราลองมาทำความรู้กันอย่างถี่ถ้วนดีกว่า โดย อินซูลินเอง เป็นฮอร์โมนประเภทหนึ่ง ที่ถูกสร้างโดยตับอ่อน โดยฮอร์โมนในร่างกายแต่ละตัวก็มีหน้าที่แตกต่างกันไป ซึ่งเจ้าอินซูลินนี่เอง มีหน้าที่ ในการนำน้ำตาลในเลือดไปหล่อเลี้ยงส่วนแตกต่างๆของร่างกาย เป็นไปได้เรียกได้ว่า ผจก.น้ำตาล เลยก็ว่าได้ ไม่ว่าน้ำตาลจะไปให้พลังงานกับส่วนไหนของร่างกาย อินซูลินจะเป็นผู้บริหารจัดการครับ เมื่อเกิดสภาวะ เบาหวาน ก็จะทำให้ร่างกายผลิตอินซูลิน ได้น้อยลง และไม่เพียงพอต่อการบังคับการจัดการน้ำตาลในร่างกายนั่นเอง เมื่อไม่มีการดูแลบริหารจัดการแล้ว ก็จะทำให้ปริมาณน้ำตาลในเลือดเสริมเพิ่มมากขึ้น โดยไม่สามารถพาไปใช้ในส่วนอื่นๆของร่างกายได้นั่นเอง</span> โรคเบาหวาน